Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า " Salvia Hispanica "
หากย้อนอดีตกลับไปจะพบว่า Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ถูกปลูกท่ามกลางหุบเขาของเม็กซิโก และเป็นอาหารที่คนแถบประเทศเม็กซิโกและโบลิเวียทานกันมานานกว่า 5,000 ปี โดยชาวอินเดียนแดงและชาวแอซเท็ก (Aztecs) พวกเขาได้นำ Chia Seeds (เมล็ดเชีย)มาใช้เป็นอาหาร โดยผสมกับข้าวโพด, ถั่ว, ผักโขม และยังใช้เป็นยารักษาโรค นอกจากนี้ Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ยังใช้สำหรับบูชาพระเจ้าในงานพิธีต่างๆ รวมถึงยังใช้แทนเงินในการแลกเปลี่ยนสิ่งของอีกด้วย จากประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่ชาวแอซเท็ก (Aztecs) ออกรบเพื่อพิชิตดินแดนใหม่ ซึ่งจะต้องใช้พลังงานในการเดินทาง และทำสงคราม นักรบแต่ละคนจะต้องมี Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ติดตัวไปด้วย เพราะจะทำให้นักรบ แข็งแรงมีกำลังในการรบและประโยชน์ของมันยังช่วยซ่อมแซมร่างกายในเวลาที่บาดเจ็บ
ประโยชน์ของ Chia Seeds (เมล็ดเชีย)
1. Chia Seeds (เมล็ดเชีย) เป็นเมล็ดพืชที่มีน้ำมัน Omega-3 (โอเมก้าสาม) สูงมากกว่าปลาแซลมอนและพืชชนิดอื่นถึง 8 เท่า ซึ่งเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ บำรุงสมองและจอประสาทตา , ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด , ลดไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ ( Triglyceride ) และลดความรุนแรงของโรคปวดข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
2. Chia Seeds (เมล็ดเชีย) มี Calcium (แคลเซียม) มากกว่านมสดหนึ่งแก้วถึง 6 เท่า ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ลดการเสื่อมของกระดูกในผู้สูงอายุ
3. Chia Seeds (เมล็ดเชีย) จะมี Boron (โบรอน) ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูกได้ดีขึ้น และเสริมสร้างเข้าไปพร้อมกับการสร้างกระดูกใหม่อยู่ตลอดเวลาที่รับประทานเป็นประจำ สม่ำเสมอ
4. Chia Seeds (เมล็ดเชีย) มี Fiber (ไฟเบอร์) ที่สูงมาก ซึ่งเป็นกากใยอาหารที่สำคัญต่อการขับถ่าย สำหรับผู้ที่ท้องผูกหรือมีปัญหาระบบขับถ่าย ไฟเบอร์จากเมล็ดเชียถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก
5. สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ควรผสม Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ในน้ำเปล่า แช่ให้เมล็ดพองตัวเต็มที่ ดื่มระหว่างมื้ออาหารของทุกมื้อ เหตุเพราะเมล็ดเชียจะมี Mucilage (มูซิลเลจ) สูงมาก กากใยชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นตัวชลอในกระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ซึ่งดีมากกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
6. Chia Seeds (เมล็ดเชีย) มี Protein (โปรตีน) สูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมเเซมส่วนที่สึกหรอ โดยสารอาหารจะผ่านเข้าไปตามระบบไหลเวียนโลหิตแล้วไปสู่อวัยวะต่างๆ ซึ่งเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
7. Chia Seeds (เมล็ดเชีย) จะมีการดูดซับน้ำได้สูง ซึ่งจะอุ้มน้ำไว้ เมื่อเราทานเข้าไป ร่างกายจะไม่ขาดน้ำ ให้ความสดชื่นที่ยาวนานขึ้น เหตุเพราะเมล็ดเชียช่วยให้น้ำอยู่ในระบบทางเดินอาหารนานขึ้น ผ่านกระบวนการย่อยอย่างช้าๆ จึงนำน้ำไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ประโยชน์สูงสุด
8. ผู้ที่มีปัญหา กรด แก๊สในกระเพาะสูง ซึ่งจะนำท่านไปสู่อาการอาหารไม่ย่อยและกรดไหลย้อน หากทาน Chia Seeds (เมล็ดเชีย) เป็นประจำ จะช่วยลดปัญหานี้ได้
9 สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องความอ้วน Chia Seeds (เมล็ดเชีย) เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ในการควบคุมน้ำหนักของคุณ เหตุเพราะ Chia Seeds (เมล็ดเชีย) จะมีการดูดซึมน้ำและผลิตเจลในปริมาณมากออกมา ซึ่งทำให้คุณอิ่มนานขึ้น อีกทั้ง Chia Seeds (เมล็ดเชีย) มีปริมาณพลังงาน โปรตีน สารอาหารต่างๆที่สูงมาก ดังนั้นนอกจากอิ่มนานแล้ว คุณยังได้รับสารอาหารที่ดีอีกด้วย แนะนำให้ผสมเมล็ดเชียกับน้ำเปล่า ดื่มระหว่างวันเพื่อควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายเพิ่มเติมเพื่อเร่งการเผาผลาญ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีสุขภาพและรูปร่างที่ดี
10. ชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของผิวพรรณ ในปัจจุบันได้มีการนำไปสกัดผสมในเครื่องสำอางบำรุงผิว เหตุเพราะ Chia Seeds (เมล็ดเชีย) นั้นมีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนื่องจากเจลของเมล็ดและน้ำมันโอเมก้าสามนั้นจะทำให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านทำให้ดูอ่อนกว่าวัยเช่นเดียวกับการรับประทานเป็นประจำ
ข้อควรระวังจากการทานเมล็ดเชีย (Chia Seeds Side Effects )
เมล็ดเชีย (Chia Seeds) เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีน เส้นใย และ ฟลาโวนอยด์ เป็นที่ยอมรับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา และ ได้รับการยืนยันว่าไม่มีแนวโน้มเป็นพิษ สมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกัน (AHA) ได้แนะนำให้ผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจควรกินเมล็ดเชีย(Chia Seeds) ทุกวัน แต่ทั้งนี้คุณประโยชน์และโทษจากผลข้างเคียงยังไม่มีใครรู้สักเท่าไหร่
จากการสังเกตและศึกษาที่ได้รับการเปิดเผยในก่อนหน้านี้ข้อควรระวังมีดังนี้
เมล็ดเชีย (Chia Seeds) เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีน เส้นใย และ ฟลาโวนอยด์ เป็นที่ยอมรับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา และ ได้รับการยืนยันว่าไม่มีแนวโน้มเป็นพิษ สมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกัน (AHA) ได้แนะนำให้ผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจควรกินเมล็ดเชีย(Chia Seeds) ทุกวัน แต่ทั้งนี้คุณประโยชน์และโทษจากผลข้างเคียงยังไม่มีใครรู้สักเท่าไหร่
จากการสังเกตและศึกษาที่ได้รับการเปิดเผยในก่อนหน้านี้ข้อควรระวังมีดังนี้
• เมล็ดเชีย(Chia Seeds) มีเส้นใยสูงถึง 25% อาจก่อให้เกิดอาการท้องอึดและแก๊สในทางเดินอาหารได้ ข้อควรแนะนำให้รับประทานเมล็ดเชีย(Chia Seeds) ที่พองตัวเรียบร้อยแล้ว
• เมล็ดเชีย(Chia Seeds) มีองค์ประกอบเป็นสารก่อภูมิแพ้ในกรณีที่ผู้เป็นภูมิแพ้เมล็ดมัสตาร์ด สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้เมล็ดมัสตาร์ดแนะนำให้หลีกเลี่ยง
• เมล็ดเชีย(Chia Seeds) มีโอเมก้า 3สูง ซึ่งมาความสามารถสลายลิ่มเลือด สำหรับผู้ที่ใช้ยา blood thinners ผู้ที่ใช้ยาแอสไพริน และผู้ป่วยกำลังจะทำการผ่าตัด ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน แต่ ผู้ป่วย haemophiliacs ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานเชีย
• เมล็ดเชีย(Chia Seeds) มีจำนวนของกรดอัลฟาไล-โนเลนิค สูง
มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าจำนวนมากของกรดอัลฟาไลโนเลนิ-ในอาหารอาจเพิ่มโอกาสของการ มะเร็งต่อมลูกหมาก
หากคุณมีมะเร็งต่อมลูกหมากหรือมีความเสี่ยงสูงในการได้รับมันหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณมากของ Chia
• การวิจัยที่ทำโดยโรงพยาบาลเซนต์ไมเคิลในโตรอนโต, แคนาดา ได้ชี้ให้เห็นว่าเมล็ด Chia อาจมีความสามารถในการลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่น่าตกใจ ดังนั้นผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำควรทานในปริมาณน้อย
• ไม่ควรบริโภคเมล็ดเชีย(Chia Seeds)ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรหยุดพักเป็นบางกรณี
• คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรที่ต้องการรับประทานเมล็ดเชีย(Chia Seeds) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยเพียงพอเกี่ยวกับผลกระทบต่อผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
• เมล็ดเชีย(Chia Seeds)มีวิตามิน B17 สูง , สำปรับผู้ที่ทาน วิตามิน B17 เป็นประจำและทานเมล็ดเชีย(Chia Seeds)อาจจะได้รับปริมาณ วิตามิน B17 เกินขนาด
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการทานเมล็ดเชีย ถ้าคุณทานในปริมาณที่แนะนำหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางของคุณก่อน
ปริมาณ ที่แนะนำในการทาน เมล็ดเชีย
ผู้ใหญ่ - 15 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ).ต่อวัน
สำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรทาน 33 ถึง 41 กรัม ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน
เด็กอายุ (5-18 ปี) - 1.4 ถึง 4.3 กรัมต่อวัน
อายุต่ำกว่า 10 - 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
ที่มา : http://health4friends.lnwshop.com/