ตำรับ ยานี้มีสรรพคุณตามภาษาสมัยใหม่ว่า แก้ภูมิแพ้ แต่โรคภูมิแพ้คงไม่มีบัญญัติไว้ในอดีต ถ้าพูดด้วยภาษาโบราณอาการของโรคที่ยาชมพูทวีปช่วยแก้ไขได้น่าจะเป็นโรคหอบ หืด นอกจากสรรพคุณหลักนี้แล้ว ยังมีการใช้ตำรับยานี้กับผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตอีกด้วย
ข่าว ล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประกาศให้บัญชียาจากสมุนไพรที่สามารถเบิกจ่ายได้ให้ผู้ถือบัตรทอง จากตำรับยา 19 รายการ เป็น 71 รายการ เท่ากับเพิ่มขึ้น 52 รายการ ซึ่งตำรับยาปราบชมพูทวีปเป็นหนึ่งในตำรับยาที่สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว
ตัว ยาของตำรับยาปราบชมพูทวีปนั้นใช้ตัวยาจำนวนมาก ในแต่ละแห่งก็อาจมีการลดเพิ่มตัวยาที่ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ใช้คล้ายๆ กัน มีส่วนประกอบยา 26 ชนิด ดังนี้
1) ลูกจันทน์ หนัก 1 เฟื้อง 2) ดอกจันทน์ หนัก 1 สลึง 3) การบูร หนัก 1 สลึง 4) ลูกกระวาน หนัก ๑ สลึง ๑ เฟื้อง 5) ดีปลี หนัก 2 สลึง 1 เฟื้อง 6) ลูกพิลังกาสา หนัก 3 สลึง 7) รำพันหางหมู หนัก 3 สลึง 1 เฟื้อง 8) เทียนแดง หนัก 5 สลึง 1 เฟื้อง 9) เทียนตาตั๊กแตน หนัก 6 สลึง 1 เฟื้อง 10) เทียนแกลบ หนัก 7 สลึง 11) ขิงแห้ง หนัก 7 สลึง 1 เฟื้อง 12) ลูกสมอเทศ หนัก 9 สลึง 13) หัวบุกรอ หนัก 9 สลึง 1 เฟื้อง 14) กานพลู หนัก 10 สลึง 15) โกฐสอ หนัก 1 บาท 16) โกฐเขมา หนัก 1 บาท 1 เฟื้อง 17) เทียนดำ หนัก 1 บาท 1 สลึง 18) เทียนขาว หนัก 1 บาท 1 สลึง 19) ว่านน้ำทั้งห้า หนัก 1 บาท 3 สลึง 20) เจตมูลเพลิง หนัก 2 บาท 21) ลูกสมอไทย หนัก 2 บาท 22) หัสคุณเทศ หนัก 5 บาท 1 สลึง 1 เฟื้อง 23) เหงือกปลาหมอ หนัก 30 บาท 24) พริกไทยล่อน หนัก 30 บาท 3 สลึง 1 เฟื้อง 25) ใบกัญชาเทศ หนัก 31 บาท 2 สลึง 1 เฟื้อง 26) เกลือสินเธาว์ หนัก 1 บาท
วิธีปรุงยา
ให้นำตัวยาทั้งหมดตากแห้งบดเป็น ผง ผสมนม เนย น้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเมล็ดในเม็ดนุ่น รับประทานครั้งละ 2-3 เม็ด ก่อนอาหาร วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น กินต่อเนื่องสัก 1 สัปดาห์ ข้อสังเกตเมื่อกินยานี้จะมีอาการร้อนวูบวาบตามตัวไม่ต้องตกใจ ข้อแนะนำ เมื่อกินยาตำรับนี้ให้งดกินยาอื่น
จากการเก็บข้อมูลผลการรักษาคนไข้ในโรงพยาบาล พบว่า ยาปราบชมพูทวีป โรคภูมิแพ้นี้สามารถลดอาการของโรคภูมิแพ้ได้ดีพอสมควร
ใคร ที่มีอาการกำเริบก็จะช่วยให้อาการหายเร็วขึ้น ซึ่งทุกวันนี้คนไทยป่วยด้วยโรคภูมิแพ้กันจำนวนมาก ยาชมพูทวีปจึงเป็นตำตอบได้ดีในระดับหนึ่ง เนื่องจากการดูแลรักษาโรคภูมิแพ้ให้ได้ผลอย่างดีนั้น นอกจากกินยาแล้ว จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอาหารการกิน ปรับปรุงสุขลักษณะอื่นๆ รวมถึงหมั่นออกกำลังกายด้วย
และ แม้ว่าตำรับยานี้จะมีความยุ่งยากใน การเตรียมยา เพราะต้องใช้ตัวยาจำนวนมากและใช้เวลาในการเตรียมยาก็ตาม แต่ถ้าเราส่งเสริมสนับสนุนกันอย่างเป็นระบบ อุปสรรคหลายอย่างก็จะลดหายไป สมุนไพรก็จะเป็นหนทางการพึ่งตนเองของประเทศได้มากขึ้น
ที่มาของยา
ป้า ถวาย กลั่นพจน์ เป็นชาวพระนครศรีอยุธยามาแต่กำเนิด ปัจจุบันอายุ 70 ปี เรียนหนังสือสูงสุดเพียงชั้นประถม 4 แต่เรียนวิชาหมอกับบิดามาแต่เล็ก เมื่อวัยสาวไม่เคยคิดสนใจและเห็นความสำคัญ และนึกไม่ถึงว่าชีวิตตนเองจะพลิกโฉมได้ขนาดนี้
"ตอนนั้นอายุ 24 ปี รู้สึกว่าอาชีพนี้มันน่าเบื่อ ไม่อยากเป็น เงินทองก็ไม่ค่อยได้ บดแต่ยา พอมาถึงตอนนี้แล้วนึกถึงพ่อ รู้สึกว่านี่คือบุญคุญพ่อ ถ้าแกไม่ใช้เรา ไม่สอนเรา เราก็คงไม่รู้"
วันนี้ป้าถวายรับบทบาทหมอพื้นบ้านอาวุโส เป็นที่ยอมรับของชาวบ้านทั้งในอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง และยังมีภาระหน้าที่ที่น่าปลื้มใจกับหมอหญิงสูงวัย เมื่อป้าถวายคือหมอปรุงยาสมุนไพรให้กับโรงพยาบาลบางซ้าย อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อเริ่มแรกนั้นป้าถวายมีบทบาทเป็นหมอนวด ซึ่งอาศัยศิลปะการนวดแบบพื้นบ้านที่ได้รับการถ่ายทอดมาแต่โบราณ และได้ศึกษาเพิ่มเติม จนสามารถช่วยแบ่งเบาภาระงานช่วยเยียวยาผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลอย่างมาก ต่อมาได้รับความไว้วางใจเพิ่มขึ้น ประกอบกับการใช้สมุนไพรได้รับความนิยม บุคลากรสาธารณสุขต่างๆ ก็พยายามสืบค้นและต้องการส่งเสริมวิชาหมอไทยเพิ่มขึ้น ป้าถวายจึงได้โอกาสแบ่งปันตำรับยาของตนเอง โดยมอบให้โรงพยาบาลบางซ้ายโดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ใด เพราะด้วยสำนึกในคำพ่อ
"เออ ถ้ากูตายไปแล้วน่ะ มึงอย่าเอาชีวิตไปฝากกับคนอื่นเขา ของมันก็มีอยู่นี่ มึงไม่ใช้ มันก็ยังเป็นบุญเป็นทานให้คนอื่นเขาได้ หนักมันก็เป็นเบา ทุเลามันก็หาย" นี่คือจิตใจของหมอพื้นบ้าน หรือหัวใจของความเป็นหมอที่ต้องการเยียวยารักษาไข้ ให้เป็นบุญทานการกุศล
ทุก วันนี้ทางโรงพยาบาลบางซ้ายจะจัดหาตัวยามาไว้ แต่มอบหน้าที่การปรุงยาตามแบบฉบับโบราณให้กับป้าถวาย ให้ดูแลตั้งแต่ตากแห้ง บดผง ผสมปรุงตามส่วน ปั้นเม็ดหรือบรรจุแคปซูล ซึ่งได้มาตรฐานเพราะมีเภสัชกรของโรงพยาบาลร่วมดูแลและสนับสนุนตลอดเวลา
ป้า ถวายมอบตำรับยาจำนวน 3 ตำรับให้แก่โรงพยาบาลบางซ้าย หนึ่งในตำรับยานั้นเป็นยาแผนโบราณที่มีการใช้ในหมู่ผู้สนใจสมุนไพรทั่วไป และในระยะหลังๆ เริ่มมีการนำเอาตำรับยานี้ใช้ในโรงพยาบาลชุมชนหลายแห่ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง อาจเป็นเพราะใช้ตัวยาหลายชนิด และชื่อตำรับยาอาจไม่คุ้นหูกับคนรุ่นใหม่ คือ ยาปราบชมพูทวีป หรือป้าถวายเรียกสั้นๆ ว่า ยาชมพูทวีป
จาก มติชนออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
ที่มา http://health4friends.lnwshop.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น