กล่าวกันว่ามนุษย์รู้จักน้ำผึ้งและสรรพคุณของมันมากกว่า 4500 ปีมาแล้ว โดยเฉพาะชาวอิยิปต์โบราณ นักวิจัยค้นพบว่า ในน้ำผึ้งมีวิตามินหลายอย่างที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ เช่น วิตามิน A B1 B2 B3 B5 และ B6 มีสารอาหารหลากชนิด เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม โซเดียม กลูโคส โปตัสเซียม ฯลฯ และพบว่าในน้ำผึ้งมีสารไดโตเรียม ที่ทำปฏิกิริยาต่อต้านอนุมูลอิสระ นักวิทยาศาสตร์ได้รายงานว่า น้ำผึ้งนั้น ถือเป็นอาวุธของนายแพทย์ที่ใช้เยียวยารักษาโรคนานาชนิด การใช้น้ำผึ้งจะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับความเจริญก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ โดยการใช้น้ำผึ้งบำบัดโรคทั้งรับประทานและฉีด หรือใช้เป็นตัวเสริมสร้างพลัง และหล่อเลี้ยง จึงมีส่วนช่วยให้ร่างกายหายป่วย บางครั้งใช้ป้องกันพิษที่เกิดจากสารปนเปื้อน เช่น สารหนู ธาตุปรอท ยาสลบ หรือพิษที่เกิดจากโรคในอวัยวะภายในของร่างกาย เช่น พิษในปัสสาวะที่เกิดจากโรคตับ โรคกระเพาะ โรคลำไส้ อาการไข้ ออกหัด ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบ อาการที่เกิดจากไตอักเสบ โรคโลหิตคลั่งในสมอง และโรคเบาหวาน นอกจากนี้น้ำผึ้งยังช่วยสมานแผลและลบรอยแผลเป็นอีกด้วย รัง ผึ้งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างด้วยรูปทรง 6 เหลี่ยม ซึ่งไม่มีบิดเบี้ยวเหมือนกับถูกคำนวณทางสถาปัตย์อย่างแม่นยำ และในเส้นรอบ วง 6 เหลี่ยมนั้น ไม่มีความผิดเพี้ยน ติดต่อกันจนเป็นชิ้นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะรูปทรงจาก 3 เหลี่ยมถึงสิบ เมื่อนำมารวมกันจะไม่ปะติดปะต่อกัน และจะมีช่องว่างระหว่างรูปทรงเหล่านั้น ยกเว้นรูปทรง 6 เหลี่ยม เมื่อถูกนำเอามารวมกันจะสามารถปะติดปะต่อเป็นชิ้นเดียวกันได้ ทั้งหมดที่ผึ้งทำนั้นไม่มีเครื่องมือ อุปกรณ์ หรือวงเวียนในการวัดและคำนวณแต่อย่างใด
น้ำผึ้งทําอะไรได้บ้าง
1.บำรุงสุขภาพ น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่นดื่มทุกวัน
2. อดนอน น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมน้ำผลไม้
3. ยาอายุวัฒนะ น้ำผึ้ง ½ -1 ช้อนโต๊ะ ดื่มทุกวัน เช้า / ก่อนนอน
4. นอนไม่หลับ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะดื่มเวลาอาหารเย็นหรือก่อนนอน
5 .ไอ หลอดลมอักเสบมีเสมหะ กระเทียม 1-2 กลีบ (ตำให้ละเอียด) น้ำมะนาว ½ เกลือเล็กน้อย พิมเสนหรือการบูร 2-3 เกล็ด น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
6. ท้องอืด ท้องเฟ้อ น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะน้ำขิงเข้มข้น ½ ถ้วย เกลือเล็กน้อยดื่มวันล่ะ 3 เวลาหลังอาหาร
7. ท้องผูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะดื่มก่อนนอน
8. เด็กปัสสาวะรดที่นอน น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (ไม่ผสมน้ำ) ดื่มก่อนนอน
9. ท้องเสียรุนแรง น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ เกลือ ½ ช้อนชา ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว
10. เด็กหวะนม น้ำผึ้ง ½ -1 ช้อนโต๊ะ ผสมนมให้เด็กดื่ม
11. กล้ามเนื้อเป็นตะคริว น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ดื่มทุกเมื่ออาหาร
12. ล้างแผล แผล ฝี หนอง แผลเรื่อรัง น้ำผึ้ง 1 ส่วน ผสมน้ำ 9 ส่วนชะล้างแผล หัวหอมแดง 2 หัวตำให้ละเอียด+น้ำผึ้งพอกฝี น้ำสุกที่เย็นแล้วล้างให้สะอาด ใช้สำลีหรือผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดบริเวณแผล
13. แผลไฟไหมน้ำร้อนลวก ถูกท่อไอเสีย ใช้ผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดแผล ไว้แล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลทุก 12 ชั่วโมง
14. โรคกระเพาะ ดื่มน้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะขณะปวด และ 3 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอน
15. ผู้ป่วยด้วยโรคพิษสุรา(ตับแข็ง/โรค ตับ) น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ ½ ถ้วยแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งเป็น ประจำ คอเหล้าดื่มน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะก่อนนอน
16. ผู้ป่วยริดสีดวงทวาร น้ำผึ้งผสมกระเทียมโทน บริโภควันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
17. เด็กโตช้า และโลหิตจาง น้ำผึ้งผสมนมดื่มเป็น ประจำ
18. เสียน้ำหรือเสียเลือด( 10-20 % ) น้ำ 1 ถ้วยแก้วผสมเกลือ ¼ ช้อนชา น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
19. โรคเด็ก (ทางเดินอาหารผิดปกติ) น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ถ้วย
20.ผสม กับเครื่องดื่มก็ได้หรืออยากจะทำ DETOX ร่างกายก็ได้ โดยผสมกับ น้ำไซเดอร์ ปัจจุบันน้ำไซเดอร์มี 2 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ล และสับปะรด
ทดสอบน้ำผึ้งแท้
ปัจจุบัน
ผู้ผลิตบางรายมักใส่สารแปลกปลอมลงในน้ำผึ้ง การตรวจจับด้วยเทคนิคด่างๆ
จึงเป็นเรื่องยาก
นอกจากตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้นซึ่งมีราคาแพงและค่อนข้างยุ่งยาก
วิธีที่ดีที่สุดคือควรซื้อน้ำผึ้งจากผู้ขายที่เชื่อใจได้
หรือมิฉะนั้นต้องใช้สายตาประเมินคุณภาพดังต่อไปนี้
1. มีความข้นและหนืดพอสมควรซึ่งแสดงว่าน้ำผึ้งมีน้ำน้อย มีคุณภาพสูง
2. มีสีตามธรรมชาติ ตั้งแต่สีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาล ใส่ ไม่ขุ่นทึบ
3. มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งตามชนิดของดอกไม้นั้นๆ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่
4. ปราศจากกาก ไขผึ้ง หรือเศษตัวผึ้งปะปน รวมทั้งวัสดุแขวนลอยต่างๆ
5. ไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว ไม่มีฟอง
6. ไม่มีการใส่สารปรุงแต่งสี กลิ่น รสใดๆ ลงในน้ำผึ้ง
7. การหยดน้ำผึ้งใส่กระดาษไข ถ้าเป็นของแท้จะไม่ซึมแน่นอน
8. ทดสอบโดยหยดน้ำผึ้งลงในแก้วน้ำชา สังเกตการละลายถ้าเป็นนํ้าผึ้งแท้เมื่อคนให้เข้ากันจะไม่ละลายในทันที
การใช้น้ำผึ้งเป็นอาหารและยา
- ลดการอักเสบ หากมีบาดแผลหรือแผลถลอกให้ล้างด้วยน้ำเบกกิ้งโซดา หรืออบเชย ชาเสจ ชาใบผักชี (ที่เย็นแล้ว) ซึ่งมีสรรพคุณฆ่าเชื้อทั้งสิ้น อาจใช้ชาดำธรรมดา น้ำมันหอม และน้ำมันกระเทียมช่วยล้างด้วยเพื่อห้ามเลือด จากนั้นทาน้ำผึ้งสะอาดบนแผล น้ำผึ้งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็ว
- รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา ใช้ผงขมิ้นผสมน้ำผึ้งทาบริเวณกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง
- ต้านข้ออักเสบ ผสมน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชาลงในน้ำร้อน เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ชงดื่มวันละ 2 ครั้ง
- แก้อาการท้องผูก กินกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มน้ำผึ้งหรือมันต้มสุกจิ้มน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกได้เช่นกัน
- แก้นอนไม่หลับ น้ำผึ้งเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ ชงน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นหรือชาดอกไม้ เช่น ชาดอกคาโมมายล์ ดื่มก่อนนอนจะช่วยให้หลับสบายขึ้น
- บำรุงเลือด เทน้ำผึ้งครึ่งช้อนโต๊ะใส่แก้ว บีบน้ำมะนาว 1 ซึก ใส่เกลือนิดหน่อยเติมน้ำร้อน ดื่มเป็นยาบำรุงเลือด
- บรรเทาอาการไอ บีบมะนาวฝานสดๆหนึ่งเสี้ยวเข้าปากให้ลงลำคอ และจิบน้ำผึ้งแท้ หนึ่งช้อนโต๊ะ อมไว้ หายไอดีมาก หรือ
- ส่วนผสม: น้ำผึ้ง 500 กรัม ขิงสด1.2 กิโลกรัม (1 ชั่ง)
- วิธีทำ: คั้นขิงสดเอาแต่น้ำ แล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้งต้มจนแห้ง
- วิธีกิน: กินครั้งละขนาดเท่าลูกอมจะช่วยบรรเทาอาการไอเรื้อรัง
- บำบัดเบาหวาน
- ส่วนผสม: สาลี่หอมหรือสาลี่หิมะจำนวน 5 ลูก น้ำผึ้ง 250 กรัม
- วิธีทำ: ปอกเปลือกสาลี่แล้วตำให้ละเอียด นำไปคลุกกับน้ำผึ้งแล้วต้มจนเหนียว บรรจุใส่ขวด
- วิธีกิน: ผสมน้ำกิน ช่วยแก้อาการไอและบำบัดโรคเบาหวานได้
- ลด
ความดันโลหิตสูงช่วย ปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนัก
ผู้ที่รักสุขภาพและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคปวดข้อ เป็นตะคริวอยู่บ่อย ๆ
หรือโรคอ้วน สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ดื่มเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี
และช่วยบรรเทาโรคต่าง ๆ ได้
ซึ่งได้มีการพิสูจน์และใช้กันมานานในอเมริกาและยุโรป
โดยนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Honey) 3 ช้อนชา
และน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Apple Cider
Vinegar) 3 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว ดื่มทุกเช้าหลังตื่นนอน และระหว่างมื้อเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื่น
- ส่วนผสม: น้ำผึ้งและงาดำ อย่างละ 50 กรัม
- วิธีทำ: ตำงาดำให้ละเอียดแล้วคลุกกับน้ำผึ้ง
- วิธีกิน: ชงกับน้ำร้อนดื่มรักษาโรคความดันโลหิตสูงและบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรัง
- สำหรับ ผิวหน้าสดใส ผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือ ต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้ หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งแล้ว นำกล้วยหอม 1/2 ลูก นำมาบดผสมกับน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน แล้วนำมาทาบนหน้า ทิ้งไว้ซัก 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งไม่ผานความร้อนจะมีเอ็นไซน์ ซึ่งทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นและนุ่มนวลขึ้น
- เพื่อ ผมเงางาม หลังสระผมเสร็จนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมผมแล้วทิ้งไว้ซัก 3-5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมคุณจะนิ่มและเงางามตามธรรมชาติปราศจากสารเคมีใด ๆ
ผึ้ง สร้างรังที่ภูเขา ต้นไม้ และบ้านเรือน ของมนุษย์ที่มีเพิงหรือห้างร้าน ผึ้งเคร่งครัดในบัญชาข้อนี้มาก เพราะ ผึ้งจะสร้างรังของมันในสถานที่ทั้ง 3 ดังกล่าวเท่านั้น เราจะไม่พบว่าผึ้งสร้างรังที่อื่นเลย รังผึ้งตามภูเขาจะมีมากและมีขนาดใหญ่โตมาก รองลงมาคือ รังผึ้งตามต้นไม้ และรังผึ้งขนาดเล็กจะอยู่ตามเพิงหรือร้านที่มนุษย์สร้างไว้
ผึ้ง
จะสร้างรังเป็นอันดับแรกก่อนที่จะหาแหล่งอาหาร
เมื่อสร้างรังแล้วจึงออกจากรังและบินออกหาอาหารจากเกสรดอกไม้และผลไม้
แล้วก็จะบินกลับรัง
ทั้งนี้เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้มันยึดรังเป็นที่มั่นเป็นบ้านของพวก
มัน
ผึ้ง
ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าผึ้งตัวเมีย และพวกมันจะเชื่อฟังนางพญาผึ้ง
เมื่อนางพญาผึ้งบินออกจากรัง พวกมันจะบินออกจากรังทั้งหมด
ขี้ผึ้งนำมาทำเทียนขี้ผึ้งที่ให้ความสว่างและน้ำผึ้งเป็นยาบำบัดโรค
หากฝูงผึ้งเห็นว่า ผู้นำของมันบกพร่องในหน้าที่ พวกมันจะปลดผู้นำตัวนั้น
หรือไม่ก็ฆ่าเสีย และจะไม่ฆ่าในรัง แต่จะนำไปฆ่านอกรัง
หากผู้นำผึ้งบินไม่ไหว พวกมันจะช่วยกันประคับประคองผึ้งตัวนั้น
ผึ้ง
เป็นแมลงที่รักษาความสะอาดรังของมันได้อย่างยอดเยี่ยม
เวลาใดที่มีสกปรกตกมาที่รัง
พวกมันจะเคลียร์สิ่งนั้นออกจากรังและจะนำเอาของเสียที่มันขับถ่ายออกมาเอาไป
ไว้นอกรัง ผึ้งจะดื่มน้ำที่ใสสะอาดเท่านั้น
เวลาที่ผึ้งขยันทำงานมากที่สุดคือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วม
แต่ฤดูใบไม้ผลิจะทำงานได้ดีที่สุด
ผึ้งตัวเล็กจะมุงานมากกว่าผึ้งตัวใหญ่ซึ่งคงจะมีอู้งานอยู่บ้าง
ผึ้ง
จะกินน้ำผึ้งในรังเพียงแค่อิ่มเท่านั้น เมื่อน้ำผึ้งในรังลดน้อยลง
พวกมันจะพ่นน้ำใส่เพื่อรักษาระดับของน้ำผึ้งเอาไว้
เพราะถ้าน้ำผึ้งหมดรังผึ้งจะตายหมด
นักปรัชญาชาวกรีกท่านหนึ่งได้สั่นสอนลูกศิษย์ของตนว่า
“พวกเจ้าจงเป็นเยี่ยงผึ้งในรัง” เหล่าลูกศิษย์ก็ถามว่า
“ผึ้งในรังมันเป็นเช่นใดเล่า ท่านอาจารย์?” นักปรัชญาท่านนั้นตอบว่า
“ผึ้งจะไม่ละเว้นผึ้งที่ขี้เกียจเอาไว้ในรัง
นอกจากจะเนรเทศและไล่ผึ้งขี้เกียจนั้นออกจากรัง
เพราะผึ้งขี้เกียจทำให้รังแออัดและน้ำผึ้งจะพาลเสีย
เมื่อรังผึ้งมีประชากรผึ้งหนาแน่นเกินไป ผึ้งที่ขยันจะสั่งสอนผึ้งขี้เกียจ
และพวกมันจะลอกคราบหนังของพวกมันเหมือนงูที่ลอกคราบ
เสียงที่ไพเราะหวานซึ้งและมีท่วงทำนองจะเป็นที่ชอบใจของผึ้ง
ที่มา http://health4friends.lnwshop.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น