วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

ใบทุเรียนเทศหรือทุเรียนนํ้า ---- เรื่องเล่าจากข่าว

สุดทึ่ง!! อดีตนายก อบต. อาชีพทนายความ ป่วยหนักแพทย์ระบุเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย จนกระทั่งน้องชายแนะนำให้ดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศวันละ 3 เวลาเพียง 20 วัน หมออึ้ง!! ตรวจไม่พบเนื้อร้าย

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพินิจ แสงสร้อย อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 7 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ อดีตนายก อบต.สบสาย 2 สมัย และมีอาชีพทนายความปัจจุบัน พร้อมเปิดเผยความมหัศจรรย์ ที่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. 57 ที่ผ่านมา ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บป่วยจนถึงขั้นแพทย์ระบุเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ตนได้รักษาตามภูมิชาวบ้านหายขาดจากการดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศ
 
ทางด้านนายพินิจ เปิดเผยว่า อาการแรกเริ่มจากที่ตนเองรู้สึก เหมือนมีก้อนเนื้อขึ้นที่ลำคอ จนเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ระหว่างนั้นคิดว่าจะเลือกใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติและพยายามหายาสมุนไพรมากิน แต่ไม่หาย จนกระทั่งวันที่ 28 ธ.ค. 57 ก้อนเนื้อที่ลำคอแตก รีบเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่ โดยแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังจากรักษาแผลที่แตกเลือดหยุดไหลได้กลับมาพักรักษาต่อที่บ้าน ทุกคนในครอบครัวต่างช่วยกันพยายามหาหมอเก่งเฉพาะทางด้านมะเร็ง กระทั่งมีคนแนะนำว่ามีหมอที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตนก็ไปรักษา ขณะนั้นหมอระบุว่าว่ามะเร็งที่ลำคอแตกออก และยังมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆ ซึ่งได้ขยายลงไปสู่ปอดกับตับแล้ว ต้องอยู่รอดูอาการต่อไป
 
นายพินิจเผยต่ออีกว่า หลังจากทราบการวินิจฉัยโรคแล้ว ทำให้ตนกลับบ้านมาด้วยความหมดหวัง และก้อนเนื้อที่ลำคอเริ่มโตขึ้นอีก เหมือนมีกะลามะพร้าวมาค้ำคออยู่ จนกระทั่งนายภัคพงษ์ แสงสร้อย น้องชาย ทำงานสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กรุงเทพฯ แนะนำให้ตนเองลองใช้ใบทุเรียนเทศมาต้มดื่มกิน เผื่อจะหาย ตนเริ่มรู้สึกมีความหวังอีกครั้งรีบไปเสาะหาใบทุเรียนเทศที่จังหวัดลำพูน และนำมาต้มให้เข้มข้น จนน้ำกลายเป็นสีดำ ดื่มทุกวัน วันละ 3 เวลา โดยเริ่มดื่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เมื่อได้ประมาณ 20 วัน ปรากฏว่า เลือดที่ไหลออกมาเริ่มหยุดแห้ง ส่วนก้อนเนื้อที่ลำคอเริ่มยุบลงเรื่อยๆ
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา นายพินิจ ได้เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็ง ที่อำเภอแม่สาย หลังจากแพทย์ตรวจวินิจฉัยอีกครั้ง ต้องตกใจพร้อมระบุว่า เชื้อมะเร็งขยายลงไปที่ตับและปอด หายหมด ส่วนที่ลำคอจากมะเร็งระยะ 4 กลับดีขึ้น กลายเป็นเพียงระยะ 1 นอกจากนี้แพทย์ยังระบุอีกว่า ไม่น่าเชื่อที่หายแบบก้าวกระโดดเช่นนี้
 
ขณะนี้อาการทุกอย่างเกือบจะเป็นปกติมากกว่า 80% สามารถทำงาน ขับรถ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับ 3-4 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงต้องต้มใบทุเรียนเทศ ดื่มต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายเป็นปกติ สำหรับใบทุเรียนเทศในจังหวัดแพร่นั้น มีที่อำเภอร้องกวาง โดยตนเองยืนยันว่า มะเร็งหายได้จากการดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศ เพราะตั้งแต่ดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศมาก็ไม่ทานยาอย่างอื่นเลย เนื่องจากเกรงว่าตัวยาอาจทำลายสรรพคุณกันได้ นายพินิจ กล่าวปิดท้าย

http://health4friends.lnwshop.com/

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

งูสวัด รักษาได้ง่ายนิดเดียว

 โรคงูสวัดคืออะไร

โรคงูสวัดเป็นโรคผิวหนังเกิดจากกลับติดเชื้อซ้ำของเชื้องูสวัดที่เรียกว่า varicella-zoster virus (VZV) ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในร่างกายทำให้เกิดตุ่มพองที่ผิวหนัง ปวดแสบร้อนมาก

สาเหตโรคงูสวัด

งูสวัดเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า Hepes Varicella Zoster เป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคไข้สุกใส ผู้ที่เป็นโรคไข้สุกใสมาก่อนจะยังคงมีเชื้อไวรัสนี้ที่ปมประสาทสันหลัง ซึ่งเมื่อร่างกายอ่อนแปเชื้อสามารถสร้างเพิ่มจำนวน ทำให้เกิดโรคงูสวัดได้ แต่จะเกิดเฉพาะแนวประสาท ไม่ลุกลามกระจายออกไปเพราะร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้ออยู่แล้ว แนวเส้นประสาทที่พบบ่อยได้แก่ บริเวณเอว ก้นกบ ตา ใบหน้า ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่นผู้สูงอายุ หรือจากโรคเช่น เอดส์ การรับประทานยา steroid จะมีโอกาสที่จะเกิดโรคงูสวัดสูง

ตำแหน่งที่เกิดโรคงูสวัด

พบว่าตำแหน่งที่เกิดโรคงูสวัดพบได้บ่อย 3 ตำแหน่งได้แก่
  • ตามแนวเส้นประสาทไขสันหลัง ระหว่างรากประสาททรวงอกเส้นที่3ถึงระดับเอวข้อที่3( spinal root between T3 and L3)
  • ตามแนวเส้นประสาทสมองคู่ที่5 อาจจะทำให้เกิดตาบอดเรียกZoster ophthalmicus
  • ตามเส้นประสาทสมองคู่ที่7 ทำให้มีอาการปากเบี้ยวครึ่งซีกเรียก Ramsay Hunt syndrome
อาการโรคงูสวัด
  • จะมีอาการปวดตามตัวก่อนมีผื่น 2-3 วัน
  • มักจะไม่มีไข้อาจจะมีไข้ต่ำๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ
  • ต่อมาจะมีอาการทางผิวหนัง อาจจะแค่คันผิวหนัง บางคนปวดแสบปวดร้อน บางคนเสียวที่ผิวหนัง สำหรับคนที่เป็นที่ใบหน้าจะมีอาการปวดศีรษะ เห็นแสงจ้าไม่ได้
  • ต่อมาอีก 1-5 วันจะมีผื่นแดงอยู่เป็นกลุ่ม ต่อมาเป็นตุมน้ำใส มักจะขึ้นอยู่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย ตามเส้นประสาทที่เป็นโรค ตุ่มน้ำใสจะคงอยู่ประมาณ5 วันต่อมาผื่นจะตกสะเก็ดและหายไปใน2-3สัปดาห์ และอาจจะทิ้งรอยแผลเป็น ผู้ป่วยที่มีภูมิอ่อนแรงเช่น โรคมะเร็ง โรคเอดส์ ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ จะเป็นโรคนี้ได้บ่อย และเป็นรุนแรง
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญของงูสวัด
  • มีอาการปวดเส้นประสาทซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุด
  • เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ อาการที่สำคัญได้แก่
    • ปวดศีรษะ
    • ไข้
    • มองแสงจ้าไม่ได้
    • คอแข็ง
    • อาเจียน
  • ประสาทไขสันหลังอักเสบ
  • หลอดเลือดอักเสบ.
  • อาจจะทำให้ปอดอักเสบ ตับอักเสบในรายที่เป็นมะเร็ง
  • งูสวัดเข้าตาซึ่งอาจจะทำให้ตาบอด
  • ปากเบี้ยว
วิธีการรักษาโดยใช้สมุนไพร
  • ใบย่านางเขียว 10 ใบ
  • ใบพลูกินกับหมาก 3-5 ใบ
  • ว่านหางจระเข้ 2หาง เอาแต่วุ้น
  • เสลดพังพอนตัวเมีย 1-2 กำมือ
  • ใบเหงือกปลาหมอ 2-3 ใบ
  • ข้าวเหนียวสารนิดหน่อย
  • นำ้สะอาด 1-2 แก้ว
 วิธีทำ คือ เอาข้างเหนียวสารแช่นํ้า20นาที ส่วนสมุนไพรตัวอื่นล้างนํ้าให้สะอาด แล้วเอาทั้งหมดมาปั่นรวมกัน (ใช้นํ้าแช่ข้าวเหนียวสารปั่นด้วย) ปั่นละเอียด แล้วกรองแต่นํ้าใช้ทา แผลพุพองของงูสวัด นํ้าที่เหลือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทาได้ 1-2 วัน  นํ้าสมุนไพรนี้ใช้รักษาได้ทั้ง ตุ่มใส เริม ผื่นคัน ทาไปราว 5-7 วัน อาการปวดแสบปวดร้อนจะหายไปแผลทั้งหมดจะแห้ง โดยไม่มีรอยแผลเป็น


ที่มา : http://health4friends.lnwshop.com/

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

ยานํ้าระดมพล ทำให้ผิวสวยหน้าใสได้จริงๆ

ยานํ้าระดมพล
การกินยาน้ำระดมพลเพื่อรักษาสิวนั้นก็เหมือนกันการรักษาสิวด้วยการ Detox อย่างหนึ่ง คือเป็นการขับของเสียที่สะสมในร่างกายออกมา แล้วสิวที่หน้าก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งการขับของเสียในร่างกายของเรานี้รวมตั้งแต่การขับถ่ายอุจจาระและการมีประจำเดือนในผู้หญิง ถ้าของเสียไม่ค้างในร่างกาย ผิวพรรณก็จะสดใส การกินยาน้ำระดมเพื่อรักษาสิวนั้นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ปลอดภัย และประหยัดมากๆทางหนึ่งที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก

สรรพคุณ (ในฉลาก)

ยาน้ำระดมพล เป็นยาแก้กษัย และปวดเมื่อยตามร่างกาย และแก้น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน สำหรับสตรีระดูไม่ปกติ เป็นยาระบาย

ขนาดรับประทาน

รับประทานครั้งละ 1 ช้อนคาว ถ้าธาตุหนักรับประทานครั้งละ 2-4 ช้อนคาว
ก่อนเข้านอนวันละ 1 ครั้ง

หลังจากกินยาน้ำระดมพล

อย่างแรกเลยต้องถ่ายท้องแน่นอนกินแล้วสักครึ่งชั่วโมงต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ เวลาถ่ายหากสังเกตที่เราถ่ายออกมาหากเป็นสีดำแสดงว่าเรามีพิษในร่างกายเยอะ แต่หากเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆพิษก็น้อยหน่อย หากกินอย่างต่อเนื่องสีก็จะอ่อนขึ้นตามลำดับ ส่วนในเรื่องสิวนั้นหากกินอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดการเกิดสิวอักเสบได้ดี เวลาที่เป็นสิวก็จะยุบเร็วกว่าที่เคยเป็น แล้วสิวใหม่ก็จะไม่ค่อยขึ้นด้วย ส่วนเรื่องรอยสิวนั้นก็คงจะไม่มีผลสักเท่าไร แต่ผลที่เกิดขึ้นก็แล้วแต่คนด้วยบางคนกินแล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ส่วนใหญ่กินแล้วได้ผลดี คนที่กินแล้วไม่ค่อยได้ผลลองเพิ่มปริมาณการกินต่อครั้งดูจาก 2 ช้อนโต๊ะอาจจะเป็น 4-6 ช้อนโต๊ะน่าจะช่วยได้บ้าง

ผลด้านนำ้เหลือง อาการคันที่ผิวกาย

ทานยาไปขวดที่1-3 ยังไม่เห็นผลเท่าไหร่ พอมาขวดที่4 แผลที่เคยเป็นน้ำเหลืองไม่ดี เริ่มแห้ง อาการคันลดลง เริ่มทานขวดที่6 แผลที่เคยเป็นไม่เปื่อยอีกเลย  ขวดที่ 7 เนื้อจะเริ่มเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่สีผิวที่เป็นสี่น้ำตาลก็เริ่มจางลงเรื่อยๆเวลามีแผลใหม่หรือโดนยุงกัด จะไม่คันและเป็นรอยดำเหมือนเดิมแล้ว

ผลด้านประจำเดือน อาการอักเสบของสิวที่ผิวหน้า

เริ่มจากการที่ประจำเดือนมาน้อยถึงน้อยมาก ประจำเดือนมีสีคลำ้ หรือมีกลิ่นคาว ก็มาเยอะขึ้น สีสดขึ้นไม่มีกลิ่นเหม็น อาการปวดท้องประจำเดือนลดลง เพราะของเสียถูกขับออกมาหมด  สำหรับผิวพรรณที่ใบหน้า จากที่เป็นคนผิวมัน สิวขึ้นตลอด ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดมาก ผิวที่กระดำกระด่าง  ก็แลดูจางลงเยอะ 

สรุปได้ว่า

สำหรับคนที่มีปัญหาผิว+การขับถ่าย+ประจำเดือนมาน้อย ยาตัวนี้ตัวเดียว รักษาได้ทั้ง3อาการ ราคาก็ถูก ถึงแม้ว่ารสชาด จะไม่ดีเท่าไร แต่ผลดีเกินคาดจริงๆ แถมไม่มีผลข้างเคียงทำร้ายระบบภายในเหมือนยาเคมีบางตัวด้วย



ที่มา : http://health4friends.lnwshop.com/

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

"ตะไคร้ อัญชัน กระชาย "บำรุงร่างกาย

สูตรสมุนไพร บำรุงไต สายตา แก้เพลีย
สูตรดังกล่าวมีวิธีทำง่ายๆ คือ
เอากระชายสด 50 กรัม
ตะไคร้สด 50 กรัม และ
ดอกอัญชันสด 30 กรัม
ต้มกับน้ำ กะโดยสายตาจนเดือดแล้วดื่มขณะอุ่นทุกวัน
วันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละครึ่งแก้ว หรือดื่มแทนน้ำ
กระชาย ตะไคร์ อัญชัน บำรุงไต สายตา แก้เพลียกระชาย ตะไคร้ อัญชัน บำรุงไต สายตา แก้เพลีย ถ้า..ต้มดื่มติดต่อกัน 3-6 เดือน จะช่วยบำรุงไตสำหรับไตปกติให้แข็งแรง ไม่ใช่ดื่มเพื่อรักษาโรคไต บำรุงสายตาแก้ตาแห้ง บำรุงกำลังและแก้อาการอ่อนเพลีย ร่างกายกระชุ่มกระชวยดีมาก
มาลองดูสรรพคุณของแต่ละตัวค่ะ
กระชาย
ประโยชน์ เหง้าและรากมีน้ำมันหอมระเหย เช่น CINEOL, BORNEOL, ใช้แต่งกลิ่นอาหารและแก้บิด สรรพคุณกระชาย
1.ช่วยบำรุงตับ ไต แข็งแรง
2.ช่วยฟื้นฟูต่อมไทรอยด์ ต่อมใต้สมอง
3.ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง กระดูกไม่เปราะบาง
4.ช่วยให้เส้นผมไม่หงอกก่อนวัยเล็บมือ เล็บเท้า แข็งแรง
5.ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต ไม่ให้สูงมากหรือต่ำมากเกินไป
6..ช่วยบำรุงหัวใจ ระบบกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง เต้นสม่ำเสมอ ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น
7.ช่วยปรับฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจน และฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรน ซึ่งอยู่ในร่างกายทุกคน ไม่ว่าผู้หญิงหรือชาย
ตะไคร้
ประโยชน์ ทั้งต้นเป็นเครื่องเทศ ทำเครื่องดื่ม เป็นยาขับปัสสาวะ ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ สารสำคัญคือน้ำมันหอมระเหยซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสาร CITRAL และ GERANIOL

ต้น
1. รสฉุน สุมขุม แก้หวัด ปวดศีรษะ ไอ
2. แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้ บำรุงไฟธาตุ
3. ทำให้เจริญอาหาร แก้ปวดกระเพาะอาหาร แก้ท้องเสีย
4. แก้ปวดข้อ ปวดเมื่อย ฟกช้ำจากหกล้ม ขาบวมน้ำ
5. แก้โรคทางเดินปัสสาวะ นิ่ว ขับปัสสาวะ ประจำเดือนมาผิดปกติ
6. แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้โรคหืด

ราก
1. แก้เสียดแน่น แสบบริเวณหน้าอก ปวดกระเพาะอาหารและขับปัสสาวะ
2. บำรุงไฟธาตุ ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะพิการ
3. รักษาเกลื้อน แก้อาการขัดเบา
ใบสด - มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข้
ต้น - มีสรรพคุณเป็นยาขับลม แก้ผมแตกปลาย เป็นยาช่วยให้ลมเบ่งขณะคลอดลูก ใช้ดับกลิ่นคาว แก้เบื่ออาหาร บำรุงไฟธาตุให้เจริญ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ นิ่วปัสสาวะพิการ แก้หนองใน
อัญชัน
ประโยชน์ ดอกใช้แต่งสีขนม ใช้ทดสอบความเป็นกรด-ด่างแทนกระดาษ “ลิตมัส” น้ำคั้นจากดอกทาทำให้ผมขึ้นและคิ้วดก ซึ่งจะได้ผลดีในเด็ก เพิ่มเติมอีกส่วนค่ะ ในสีม่วงของอัญชัญมี แอนโทไซยานิน (anthocyanins) สีม่วงจากพืชตระกูลบลูเบอร์รี่ ถูกใช้เพื่อเสริมสมรรถภาพการมองเห็นและลดปัญหาที่เกิดกับระบบหมุนเวียนของเลือด ในลักษณะเดียวกับการใช้น้ำคั้นอัญชันมาเป็นเวลานาน มีการใช้ในผู้ป่วยเบาหวานและแผลในกระเพาะอาหาร จึงมีคุณสมบัติต้านการเกิดโรคมะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวตายและต้านการเกิดสารก่อมะเร็งในสัตว์ทดลอง
พืชที่มีแอนโธไซยานินมักพบสารกลุ่มโพลีฟีนอลด้วย สารกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยชะลอสภาวะเสื่อมของเซลล์เพราะสาร สารแอนโธไซยานิน นี่แหละ ไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีขึ้น เช่น ไปเลี้ยงรากผม ทำให้ผมดก เงางาม ไปเลี้ยงดวงตา ทำให้ตามองเห็นชัดเจน ไปเลี้ยงปลายนิ้ว(คนแก่เป็นกันเยอะ ปลายนิ้วชา) จะทำให้ไม่เป็นเน็บชา ที่สำคัญ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นเส้นเลือดอุดตันด้วยแถมยังชลอความแก่ และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและโรคมะเร็ง
-มีคุณสมบัติล้างพิษ ของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ช่วยชลอความแก้ บำรุงสมอง และต้านอนุมูลอิสระ -
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
-ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและช่วยทำลายพิษจากอนุมูลอิสระ

ที่มา : http://health4friends.lnwshop.com/