วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เจียวกู้หลาน สมุนไพรที่ดีกว่าโสม

   ประวัติความเป็นมา

เจียวกู้หลาน เป็นพืชจำพวกเถา จำพวกแตงมีใยขนาดเท่าเหรียญสิบบาทและมีรูปร่างคล้ายใบมะระมีห้าแฉก จึงมีผู้ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า เบญจขันธ์/ปัญจขันธ์ มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย ในบริเวณที่มีภูมิประเทศเป็นป่าเขาที่มีความสูงระดับ ๓เป็นป่าเขาที่มีความสูงระดับ ๓๐๐- ๓,๒๐๐ เมตร จากระดับน้ำทะเลในจีน อินเดีย เนปาล เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม ญี่ปุ่นและเกาหลี คำว่าเจียวกู้หลานในภาษาจีนหมายความถึง พืชเถาที่พันรอบไม้ใหญ่ แต่ด้วยคุณประโยชน์มากมายที่มีต่อการบำรุงสุขภาพและรักษาอาการป่วย ชาวจีนจึงเรียกเจียวกู้หลานอีกชื่อหนึ่งว่า ซี- ยัน- เช่า ซึ่งหมายความว่าเป็นสมุนไพรแห่งชีวิตอมตะ

ชาวจีนที่อาศัยอยู่บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ในมณฑลกวางชู กวางสี ยุนานและฉวนได้นำเอาเจียวกู้หลานมาบริโภคเป็นอาหารเป็นเวลานานและต้มดื่มแทน น้ำชาตั้งแต่ศตวรรษที่๑๕เป็นต้นมาเพราะมีคุณสมบัติในการส่งเสริมธาตุหยินและ หยางของร่างกายช่วยทำให้ผู้ดื่ม สุขภาพแข็งแรง สามารถทำงานหนักกลางแจ้งได้เป็นเวลานาน ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย มีอายุยืน ต่อมาได้นำมารักษาอาการป่วยเช่นไข้หวัด อาการไอเรื้อรัง และถุงลมในปอดอักเสบและพบว่าผู้ดื่มชาเจียวกู้หลานเป็นประจำนอกจากจะมีอายุ เฉลี่ยที่ยืนนานและมีสุขภาพแข็งแรง แล้วยังมีอัตราการป่วยที่เป็นมะเร็งที่ต่ำกว่าอีกด้วย
ใน ทศวรรษที่๑๙๗๐ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่ได้พบรายงานการรักษาโรคถุงลมในปอดอักเสบใน ประเทศจีนนำเจียวกู้หลานมาทำการวิจัยเพื่อหาประโยชน์ต่างๆ Dr Osama Tanaka แห่งคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮิโรชิมาที่ต้องการศึกษาเพื่อหาพืชที่สามารถให้ความหวานแทน น้ำตาลพบว่าเจียวกู้หลานซึ่งเป็นพืชที่ต่างสายพันธุ์กับโสม แต่มีสาร แซพโพนินส์ที่มีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกับโสม ต่อมา Dr Tsunematsu Takemoto ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรได้ทำการวิจัยประโยชน์ของเจียวกู้หลานอย่างต่อ เนื่องเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีเพื่อหาสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งและ โรคร้ายอื่นๆ พบว่าเจียวกู้หลานมีสารแซพโพนินส์อยู่ ๘๒ ชนิด เรียกว่า Gypenosides ๑ ๘๒ จึงจัดเป็นสมุนไพรที่ใช้เป็นยาได้เหมือนโสมแต่ดีกว่าโสม เนื่องจากหากเปรียบเทียบกับโสมที่มีสารแซพโพนินส์ที่เรียกว่า ginsenosides นี้อยู่เพียง ๒๘ ชนิด แต่เจียวกู้หลานมีสารแซพโพนินส์ที่เรียกว่า gypenosides นี้อยู่ถึง ๘๒ ชนิด และสาร gypenosides ที่พบในเจียวกู้หลานนี้มีอยู่สี่ชนิดเหมือนกับที่พบในโสมและอีกสิบเจ็ดชนิด มีคุณลักษณะคล้ายกับโสม นอกจากนี้ปริมาณ gypenosides ที่มีในเจียวกู้หลานก็มากกว่าและคุณสมบัติทางยาที่ดีกว่าสาร ginsenosides ที่พบในโสมอื่นๆโดยเฉพาะไม่มีพิษและไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้นจากการบริโภค

  ร่างกายของมนุษย์เปรียบเสมือนเป็นเครื่องจักรที่น่ามหัศจรรย์เพราะมีระบบการ ทำงานของสมองที่สามารถคิด ประมวลผลการทำงานและสั่งงานได้เองและมีระบบการทำงานของร่างกายที่สามารถ รักษาดุลภาพของร่างกาย และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สามารถต่อต้านโรค รักษาอาการเจ็บป่วย สมานแผลต่อกระดูกที่หักได้เองระดับหนึ่ง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ธรรมชาติได้มอบให้แก่มนุษย์หากมนุษย์สามารถ เข้าใจในการเรียนรู้ความมหัศจรรย์ของร่างกายและพัฒนาตนเองขึ้นมาได้
การ ใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ในปัจจุบันที่ไม่ถูกต้องตามธรรมชาติมีส่วน สำคัญที่ทำให้ร่างกายสร้างอนุมูลอิสระ ขึ้นมามากจนเกินกว่าที่ร่างกายจะควบคุมได้ จึงเป็นผลให้อวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายเสื่อมเร็วและทำให้แก่เร็วกว่าวัยเช่นผมหงอกมาก ผิวหนังเหี่ยวย่น มีริ้วรอยบนใบหน้า เส้นเลือดในร่างกายตืบตันเพราะมีไขมันไปจับบริเวณผนัง ( เป็นสาเหตุของอาการหัวใจวาย ไตวายหรือพิการ อัมพาต ) โรคเม็ดโลหิตขาวมากเกินไป โรคมะเร็งและโรคสมองเสื่อม

 ในประเทศจีน แพทย์แผนจีนได้ใช้เจียวกู้หลานร่วมกับสมุนไพรจีนชนิดอื่นและน้ำผลไม้ที่คั้น จากผลกีวีซึ่งมีวิตามินซีและวิตามินอีสูงใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการป่วยเกิด จากอนุมูลอิสระเช่นอาการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ที่เป็นสาเหตุของอัมพาต อาการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจที่เป็นสาเหตุของอาการหัวใจวายหรืออาการกล้าม เนื้อหัวใจตายซึ่งได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ
ใน บรรดาจำนวนพืช ๔๐๐๐ ชนิด สมุนไพรที่จัดได้ว่าเป็น Adaptogen ได้เพียงหนึ่งชนิดเท่าที่สมุนไพรที่เป็นAdaptogen ได้จะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญ ๑) ไม่มีสารใดๆ ที่เป็นพิษต่อร่างกาย และ๒ ) ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง ในการรักษาร่างกายให้หายป่วยจากโรคร้าย โดยมีผลต่อการทำงานของร่างกายที่สำคัญคือ บำรุงการทำงานของอวัยวะภายในให้แข็งแรงและปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาท และระบบฮฮร์โมนให้เป็นปกติจากผลของความเครียด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ ได้พบว่าเจียวกู้หลานเป็น Adaptogen ดีกว่าสมุนไพรชนิดอื่นๆ

จากการทดลองวิทยาศาสตร์เป็นเวลากว่า ๓๐ ปี ยืนยันว่าเจียวกู้หลานเป็น Adaptogen ที่มีคุณสมบัติที่น่ามหัศจรรย์ต่อร่างกายในการช่วยปรับสมดุลยภาพการทำงานของ ระบบประสาทส่วนกลางที่ประกอบด้วย สมองไขสันหลัง ระบบประสาท Sympathetic และระบบ Parasympathetic ที่ควบคุมการทำงานของระบบประสาท การหลั่งฮฮร์โมนและการทำงานของอวัยวะต่างๆ หากร่างกายมีความเครียดหรือวิตกกังวลมากเกินไป สาร Gypenosides จะช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางปรับตัวเพื่อให่ร่างกายผ่อนคลายความเครียดลง แต่ถ้าร่างกายมีอาการหดหู่สาร Gypenosides จะช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางปรับตัวให้ร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น ในปัจจุบันเจียวกู้หลานเป็นสมุนไพรที่วงการแพทย์ในจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกายอมรับในการรักษาเพื่อลดไขมัน ลดความดันโลหิตสูง แต่ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำจะปรับให้เป็นปกติ ทำให้หัวใจและตับแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย สร้างภูมิต้านทานโรค ( ในประเทศไทยได้มีการทดลองประกอบการรักษาผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์พบว่าผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันของร่างกายสูงขึ้น ) และช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารมากขึ้น

สารเคมีที่พบในเจียวกู้หลาน

สารที่พบในเจียวกู้หลานประกอบด้วย ซาโพนินส์ ( Saponins ) เฟลโวเนส โพลีซัลคาไรด์ กรดอมิโน ไวตามิน บี๑ บี๒ และธาตุที่สำคัญต่อร่างกายหลายชนิด เช่น แคลเซียม ( Ca ๑๙๔๗๕.๐๐) สังกะสี ( Zn ๑๗๘.๗๕ ) เหล็ก ( Fe ๗๘๖.๓๐ ) แมงกานีส ( Mn ๘๖.๓๐ ) แมกนีเซียม ( Mg ๒๐๔๕.๐๐)
ซา โพนินส์คือ โมเลกุลกลีโคไซด์ ( glycoside ) ที่ประกอบด้วย อกลีโคน ( aglycone ) และน้ำตาลซึ่ง ซาโพนินส์ ที่พบในเจียวกู้หลานนี้เป็น ซาโพนินส์ ประเภทเดียวกับ ginsenosides ที่พบในโสมและจัดอยู่ในตระกูลที่มีโครงสร้างของโมเลกุเหมือนกับสเตรอยด์ฮฮร์ โมนที่พบในสัตว์และมนุษย์

สเตรอยด์ฮอร์โมนนี้ มีคุณสมบัติที่สำคัญต่อร่างกายทำงานของระบบผลิตฮฮร์โมนในสัตว์และมนุษย์ แต่ซาโพนินส์ ที่พบในเจียวกู้หลานและโสมไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการทำงานของระบบฮฮร์โมนในร่าง กายมนุษย์ เช่นเดียวกับสเตรอยด์ฮฮร์โมน แต่จะช่วยสร้างการปรับสมดุลของฮฮรด์โมนในร่างกายทำให้ระบบการทำงานของระบบ ประสาทส่วนกลาง และอวัยวะภายในร่างกายมีความสมดุลและการทำงานได้ดีตามปกติ ซาโพนินส์ ในเจียวกู้หลานและโสมจึงไม่ใช่สารที่ห้ามนักกีฬาใช้โดยคณะการโอลิมปิก ระหว่างประเทศ เจียวกู่หลานมีสาร gytpenosides ๘ ชนิดที่เรียกว่า gytpenosides ๑-๘๒ ซึ่ง gytpenosides หมายเลข ๓,๔,,๘และ๑๒ มีโครงสร้างทางเคมีเหมือนกับ ginsenoside Rb1 Rb2 Rd และ F2 ตามลำดับนอกจากนี้gypenosides อีก ๑๗ ชนิด เมื่อผสมด้วยน้ำก็จะมีคุณสมบัติเหมือนกับ Ginsenosides แต่เจียวกู้หลานมีข้อได้เปรียบโสมตรงที่สารซาโพนินส์มากกว่าโสมถึงสี่เท่า และคุณสมบัติในการบำรุงร่างกายดีกว่าโสม นอกจากนี้ ผู้บริโภคเจียวกู้หลานไม่มีอาการแพ้เหมือนการบริโภคโสม
ประโยชน์ของเจียวกู้หลาน

ทุกๆ มณฑลในประเทศจีนจะมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยคณะแพทย์ศาสตร์ สถาบันวิจัยและโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วย รัฐบาลจีนได้ทุ่มเทงบประมาณและทรัพยากรณ์จำนวนมากเพื่อนำเอาวิธีการรักษาผู้ ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีผลข้างเคียงเหมือนวิธีของแพทย์ตะวันตก ในการวิจัยได้มีวิธีการวิจัยครบทั้ง ๓ ขั้นตอน คือ ๑. ในห้องปฎิบัติการ ๒. ทดลองในสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังและมีอวัยวะภายในทำงานคล้ายกับ มนุษย์ ๓. ทำการรักษา กับผู้ป่วยและผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงในคลินิก จากการวิจัยโดยคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศจีน พบว่าเจียวกู้หลานมีประโยชน์ในการรักษาอาการผู้ป่วยและบำรุงสุขภาพของมนุษย์ ดังต่อไปนี้

๑. คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการต่อต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระในร่างกายของเราเกิดขึ้นจากขบวนการเผาผลาญพลังงานโดยออกซิเจนใน ร่างกาย ซึ่งปกติอะตอมของออกซิเจนจะประกอบด้วยโปรตอน ( ประจุบวก ) และอีเลคตรอน ( ประจุลบ ) ในระหว่างการเผาผลาญพลังงาน อีเลคตรอนของออกซิเจนที่มีถึง ๒ ตัวอยู่ในวงนอกของอะตอมจะไปจับคู่กับอีเลคตรอนของอะตอมออกซิเจนที่อยู่ใกล้ กันเพื่อให้ตัวมันเป็นอะตอมที่สมบูรณ์ อะตอมที่ถูกขโมยที่ประจุลบไปจะกลายเป็นอนุมูลอิสระแล้วไปจับคู่กับ อีเลคตรอนของอะตอมข้างเคียงเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างรวดเร็วซึ่งจะทำให้เกิด อนุมูลอิสระในร่างกายเป็นจำนวนมาก หากร่างกายของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงก็ควบคุมปริมาณการเกิดอนุมูลอิสระนี้ได้ แต่ร่างกายอ่อนแอเพราะได้รับเชื้อโรคหรือมลพิษ ก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมปริมาณของอนุมูลอิสระนี้ได้และเป็นสาเหตุ ของปัญหาด้านสุขภาพดังต่อไปนี้
๑. ทำให้ภายในอวัยวะต่างๆ เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติและผิวหนังเหี่ยวย่นเร็วกว่าวัย
๒. ทำให้ DNA ทำงานผิดปกติ ร่างกายจึงแก่เร็วกว่าวัย
๓. ทำให้เส้นเดือดตีบตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการต่างๆ คือ
๓.๑ หากเกิดขึ้นที่เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจจะทำให้มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรืออาการ หัวใจ
๓.๒ หากเป็นที่ไตจะมีอาการไตเสื่อมหรือไตวาย
๓.๓ หากเป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองจะเกิดอาการอัมพาต
๓.๔. ทำให้เกิดอาการร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมากเกินไป ทำให้มีอาการข้ออักเสบหรือโรคเม็ดโลหิตขาว มากเกินไป
๓.๕. เกิดอาการอักเสบที่เอ็นและกล้ามเนื้อ
๓.๖. เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
๓.๗. เป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อมและความจำเสื่อม จากการทดลองในประเทศจีน ได้ใช้เจียวกู้หลานร่วมกับน้ำผลไม้ที่มีวิตามินอี และวิตามินซีสูงและสมุนไพรอื่น พบว่ามีผลต่อการรักษาโรคต่างๆ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกาย

๒. คุณสมบัติของเจียวกู้หลานที่เป็นสารปรับสมดุลการทำงานของร่างกาย ( Adaptogen ) คำ ( Adaptgen เป็นคำที่เกิดขึ้นโดย Dr. N .V.Lazarev นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียในปีค.ศ. ๑๙๔๗ ที่เรียกสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาทส่วน กลางของมนุษย์ ระบบประสาทส่วนกลางประกอบด้วย สมอง ไขสันหลัง ระบบประสาท Sympaihetic และระบบประสาท Paraasympathetic ซึ่งควบคุมการทำงานที่สำคัญต่างๆของร่างกายซึ่งปกติแล้วร่างกายเปรียบเสมือน เป็นเครื่องจักรที่น่าหัศจรรย์ที่จะรักษาตัวเอง ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองแล้วใน ระดับหนึ่ง เมื่อร่างกายมีอาการเครียดเกิดขึ้นหรือตกอยู่ในสภาพที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อ รับมือกับสถานการณ์ บางอย่างที่เกิดขึ้นต่อม อดรีนอล ( Adrenol ) จะขับฮอร์โมนโดพาไมน์ ( Dopamine ) โนเรไพเนพฟริน ( Norepinephrine ) และอีไพเนพฟริน ( Epiephrine ) เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าร่างกายมีอาการเครียดมากเป็นบ่อยๆ การทำงานของระบบประสาทส่วนกลางจะไม่ปกติและเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ อาการความดันโลหิตสูง อาการปวดหัวโดยไม่พบสาเหตุ เป็นต้น ในการรักษาสุขภาพให้มีสุขภาพแข็งแรง มีข้อควรปฎิบัติ ๔ ประการ คือ กินอาหารที่ถูกสุขลักษณะและมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาศัยในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ และรักษาอารมณ์ให้แจ่มใสด้วยการทำสมาธิเป็นประจำ นอกจากนี้การดูแลรักษาสุขภาพของร่างกายข้างต้น แล้วนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า เจียวกู้หลานมีส่วนสำคัญในการช่วยรักษาสมดุลการทำงานของระบบส่วนกลางของร่าง กายได้ดี กล่าวคือหากระบบประสาทมีอาการเครียดเพราะเตรียมพร้อมกับปัญหาที่เกิดขึ้น สาร gypenosides จะช่วยทำให้ลดอาการเครียดของระบบประสาทส่วนกลางลงแต่ถ้าร่างกายรู้สึกหดหู่ ( Depressed ) สาร gypenosides นี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบส่วนกลางให้ร่างกายรู้สึกมีชีวิตชีวาดีขึ้น ซึ่งการรักษาสมดุลของระบบการทำงานของร่างกายนี้จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็ง แรง มีการสร้างพลังชีวิต ภูมิคุ้มกันและการต่อต้านเชื้อโรคในร่างกายให้เป็นปกติ

๓ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการเสริมสร้างการทำงานของหัวใจ เจียวกู้หลานจะช่วยขยายหลอดเลือดของหัวใจทำให้มีอัตราการไหลเวียนของเลือด จากหัวใจสูงขึ้น แต่อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตไม่เปลี่ยนแปลง

๔ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการลดความดันโลหิต ความดันโลหิตของมนุษย์ควรอยู่ระหว่าง ๑๔๐ ๙๐ mm Hg หากมีความดันโลหิตสูงกว่านี้ จะมีอาการความดันโลหิตสูงซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อสมอง หัวใจและไต แต่ถ้าความดันโลหิตต่ำจะทำให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยกว่าความต้องการจะทำ ให้เป็นลมหน้ามืดได้ง่าย Gypennosides ในเจียวกู้หลานจะควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติกล่าวคือ หากมีอาการความดันสูงก็จะปรับลดลงแต่ถ้ามีความดันโลหิตต่ำก็จะปรับให้เป็น ปกติ

๕ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการลดไขมันในเส้นเลือด จาการรักษาผู้ป่วย สาร gypennosides ได้ลดเซรุ่มของไตรกลีเซอร์ไรด์ และคลอเรสเตอรอลประสารท LDL ที่เป็นผลร้ายต่อสุภาพ แต่เพิ่มคลอเรสเตอรอลประสาท HLD ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของร่างกายแทน ทำให้ปริมาณของไขมันที่เกาะตามผนังเส้นเลือดหัวใจ จึงช่วยรักษาและป้องกันอาการหัวใจวายและหัวใจเต้นผิดปกติ

๖ คุณสมบัติในการป้องกันการจับตัวเป็นลิ่มของเลือด จากการทดลองพบว่า สาร gypenosides ในเจียวกู้หลานได้ป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มซึ่งหากลิ่มเลือดอุดตัน ในบริเวณเส้นเลือดหัวใจจะเป็นสาเหตุให้มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติหรือหัวใจวาย ได้

๗ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการสร้างเม็ดเลือดขาว จากการทดลองผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งที่รักษาตัวด้วยการฉายรังสีและวิธีคีโม ที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและมีเม็ดเลือดขาวในเลือดน้อยกว่าปกติ สาร gypennosides ได้ช่วยร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นผลดีทำให้หายอ่อนเพลียและเพิ่มภูมิต้านทานโรค

๘ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย จากการทดลองของผู้ป่วยพบว่าเจียวกู้หลานได้ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของ ร่างกายด้วยการช่วยให้การการทำงานของระบบน้ำเหลืองดีขึ้นด้วยการสร้างเม็ด เลือดขาวสำหรับกำจัดเชื้อโรคที่พบในร่างกาย และช่วยโปรตีนและไขมันออกจากเนื้อเยื่อ และลำไส้เล็ก จึงทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

๙ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ว่าสาร ginsenosides Rh 12 ที่พบในโสมมีคุณสมบัติในการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ดี แต่สาร Rh12 ที่พบในโสมนี้มีปริมาณเพียง 0.001% เท่านั้น แต่ในเจียวกู้หลานมีสาร gypenosides 22- 29 ที่มีคุณสมบัติในการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เช่นเดียวกัน แต่มีปริมาณมากกว่าที่พบในโสมหลายเท่า

๑๐ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการรักษาเบาหวานและโรคตับ จากผลการทดลองรักษาผู้ป่วยพบว่า สาร gypenosides ในเจียวกู้หลานมีผลดีในการรักษาอาการเบาหวานและตับอักเสบจากพิษของสารเคมี หรือจากไวรัสตับอักเสบบีได้ แต่ต้องดูผลการรักษาเพิ่มเติมอีกระยะหนึ่ง

๑๑ คุณสมบัติของเจียวกู้หลานในการรักษาอาการโรคถุงลมในปอดอักเสบ ชาวจีนได้นำเจียวกู้หลานมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการถุงลมในปอดอักเสบมาเป็น เวลานาน ซึ่งมีผลการทดลองที่ได้นำชาเจียวกู้หลานให้ผู้ป่วยเป็นโรคถุงลมในปอดอักเสบ ดื่มเพื่อรักษาในโรงพยาบาลในประเทศจีนซึ่งได้ผลในการรักษาสูงถึง 92% จากการรักษาผู้ป่วยจำนวน 96 ราย

กรมวิทย์ฯ เปิดตัวสมุนไพรสารพัดประโยชน์ เร่งส่งเสริมการเพาะปลูก เพื่อใช้รักษาโรคแทนยาแผนปัจจุบัน

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยสมุนไพร ได้ทำการศึกษาวิจัยสมุนไพร ปัญจขันธ์ เพื่อผลิตเป็นยา หรือ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ หลังใช้เวลาศึกษาและวิจัยทดลองแล้วพบว่ามีสรรพคุณหลากหลาย และไม่มีอัตราราย เผยพื้นที่ทางภาคเหนือของไทยสามารถปลูกได้ดี คาดว่าหากมีการส่งเสริมจริงจังจะเป็นประโยชน์ทางพาณิชย์ อาจทดแทนยาแผนปัจจุบัน ช่วยลดมูลค่าการสั่งซื้อยาจากต่างประเทศได้หลายชนิด นายแพทย์สมทรง รักเผ่า อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยสมุนไพร ได้ดำเนินการศึกษาและวิจัยและพัฒนาสมุนไพร เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์หลายชนิด เป็นเวลานานกว่า ๒๐ ปีแล้ว ล่าสุด ได้พบสมุนไพรที่มีศักยภาพสูง ควรพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และพาณิชย์ได้ดีคือสมุนไพร ปัญจขันธ์ หรือที่จีนเรียกว่า เจียวกู่หลาน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gynostemma pentaphyllum Makino เป็นพืชล้มลุกชนิดเถา ในประเทศญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้ปัญจขันธ์เป็นยาต้านการอักเสบ แก้ไอ ขับเสมหะ และเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่า gynsenoside ซึ่งเป็นสารประเภทSaponins ที่พบในปัญจขันธ์ มีคุณสมบัติคล้าย ginsenoside ที่พบในโสมและพบว่า gypenoside สามารถลดระดับไขมันในเลือด เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเจริญเติบโต ของเนื้องอก รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ต้านการอักเสบ แก้ปวด และยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ในประเทศไทยพืชชนิดนี้สามารถปลูกได้ดี ปัจจุบันมีการปลูกที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังไม่แพร่หลายนัก อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ทางสถาบันสมุนไพรกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ดำเนินการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัด ปัญจขันธ์ พบว่าตัวยาที่สกัดได้แสดงฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์เอชไอวีโพรทีเอส ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เชื้อ HIV ใช้ในการเพิ่มจำนวน และมีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันในหลอดทดลองได้ดี เมื่อทำการทดสอบความเป็นพิษเฉียบพลัน และพิษเรื้อรังของสารสกัดจากปัญจขันธ์ ในสัตว์ทดลองพบว่ามีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ยังได้ทำการทดลองในอาสาสมัคร โดยให้รับประทานสารสกัดในรูปของแคปซูลก็พบว่ามีความปลอดภัย จึงควรสนับสนุนการนำสมุนไพรนี้ มาใช้ประโยชน์ในระบบบริการสุขภาพเพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบัน และเพื่อการส่งออก ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพรที่มีคุณค่าทาง เศรษฐกิจ การส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรจึงเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย และเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศต่อไป

กรมวิยาศาสตร์การแพทย์
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ที่มา  http://health4friends.lnwshop.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น