วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มาทำความรู้จัก ชา ชนิดต่างๆกัน

ชาได้มาอย่างไร
dd
ddใบชาได้จากพืชที่มีชื่อว่า Camellia Sinensis วงศ์ Theaceae ถิ่นกำเนิดคือประเทศจีน ต่อมาแพร่ กระจายไปสู่ อินเดีย ศรีลังกา และญี่ปุ่น การเก็บใบชาจะเลือกเก็บเฉพาะยอดและใบอ่อน ใบที่อายุ ต่างกันจะให้รสชาติไม่เหมือนกัน ใบชาจะถูกทำให้แห้งด้วยความร้อน อบ คั่ว ตากแห้ง หรือหมัก ซึ่งจะได้ใบชาที่มีลักษณะรสชาติที่ต่างกัน และชื่อเรียกที่แตกต่างกัน
ddddสารสำคัญที่มีอยู่ในใบชาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นมีอยู่มาก  เช่น Polyphenols เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นสารเคมีธรรมชาติที่ช่วยพัฒนากระบวนการป้องกันสารพิษในร่างกาย และยับยั้งอนุมูลอิสระที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกาย และ Catechinสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถชะลอความชราและต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ และช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี ฯลฯ
 
ชาเขียว
 
ddddชา เขียว คือชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก ในระยะเวลาสั้น การผลิตชาเขียว ทำโดยนำใบชาที่เก็บมาได้ มาผ่านไอน้ำหรือความร้อน เพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทันที จากนั้นนำไปกลิ้งด้วยลูกกลิ้งและทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว ใบชาที่ได้จึงยังคงมีสีเขียว  ในชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันรอยเหี่ยวย่น สีผิวด่างดำ และแห้งกร้าน
 
ประโยชน์จากชาเขียว
 
          ประโยชน์ ที่ได้จากชาเขียวไม่น้อยไปกว่า ชาอูหลงกว่ากันเท่าไรนัก โดยทั่วไปชาเขียวจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ทำให้สมองสดชื่นแจ่มใส ช่วยขับปัสสาวะ ขยายหลอดลม
สารแทนนินในใบ ชาเขียวนั้นเองยังสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ (โดยการแช่ใบชาไว้นานๆเพื่อให้สารแทนนิน จากชาเขียวออกมาเพียงพอที่จะทำให้อาการท้องเสียลดลง) โดยทั่วไปจะวิธีชงชาจะไม่นิยมแช่ใบชาทิ้งไว้นานๆ เพราะจะทำให้ท้องผูก ซึ่งหลายความเชื่อที่ไม่อยากลองชิมชามากๆ คงเป็นเพราะกลัวท้องผูก
สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ชาเขียวสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหัวใจ และผนังหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ
            สารต้านอนุมูลอิสระในใบชาเขียว มีฤทธิ์เป็นสารต้านการเกิดมะเร็ง    สามารถ ยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้ สำหรับผู้ชายการดื่มชาเขียวจะป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก และสารต้านอนุมูลอิสระนี้เองยังสามารถช่วยให้ผู้ดื่มชาเขียวสามารถชะลอความ ชรา ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามิน C 100 เท่า และสูงกว่า วิตามิน E 25 เท่า ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
ใน ใบชาเขียวมีสารฟลูออไรด์สูง ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้มีส่วนทำให้กระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยชาสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้ฟันผุได้ถึง 95% ป้องกัน ฟันผุโดยช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดหินปูน รวมทั้งช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากอีกด้วย
            ช่วยลดระดับ LDL คลอเลสเตอรอล ในหลอดเลือด และช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ช่วยดูดซับน้ำตาลในลำไส้เล็ก เร่งการเผาผลาญแคลอรี่ จึงเป็นส่วนช่วยให้สามารถควบคุมน้ำหนักสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนได้ เป็นอย่างดี

ชาขาว

         
ชา ขาว คือชาที่ได้จากการเลือกเก็บยอดชาที่อ่อนมาก คือยังมีขนเล็ก ๆ สีขาวปกคลุมยอดชาอยู่ ใบชาจะคงสภาพเหมือนใบชาสดและมีสีขาว น้ำที่ชงจากชาขาวจะมีสีใสๆถึงสีเหลืองอ่อน มีลักษณะใกล้เคียงกับชาเขียว ในแต่ละปีจะเก็บเกี่ยวยอดชาเพื่อนำมาผลิตชาขาวได้ในบางวันเท่านั้น และต้องใช้ยอดอ่อนถึง 80,000 ยอดเพื่อผลิตใบชาน้ำหนัก 1 ปอนด์ และทำให้แห้งด้วยการนำไปตากแดดด้วยแสงอาทิตย์ธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการอบความร้อน การคั่ว หรือหมักเช่นชาอูหลง

ประโยชน์จากชาขาว
 
ddddสืบเนื่องจากกระบวนการผลิตทำให้ชาขาวยังคงคุณค่าและสรรพคุณทางยาได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน B และ C โปรแตสเซียม และโดยเฉพาะสาร Polyphenols ที่มีอยู่ในใบชาทุกชนิดคงอยู่ในปริมาณมากกว่าชาชนิดอื่นโดยไม่สูญสลายไปตาม กระบวนการผลิต ทำให้ชาขาวมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า และเมื่อเทียบปริมาณคาเฟอีนของชาทุกชนิด คาเฟอีนในชาขาวมีปริมาณน้อยที่สุด
นอก จากรสชาติที่ดี และกลิ่นหอมชื่นใจแล้ว ชาขาวยังมีสรรพคุณ ช่วยขับของเสียจำพวกไขมันออกจากร่างกาย ช่วยขับปัสสาวะ กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ขับไล่ความเหนื่อยอ่อน และสร้างความสดชื่น นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยระบุว่า ชาขาวมีสารแอนติออกซิแดนต์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ในปริมาณสูงกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า ช่วยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและไวรัส ป้องกันมะเร็ง ที่สำคัญยังช่วยชะลอความแก่ ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องผิวจากการเกิดรอยเหี่ยวย่น หย่อนยาน สีผิวที่กระดำกระด่าง และความแห้งหยาบกระด้างได้
 
 
ชาอูหลง
 
ddddชาอูหลง คือชาที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการหมักแต่เพียง 10-80 เปอร์เซ็นต์ คือระยะเวลาการหมักนานกว่าชาเขียว ชาประเภทนี้จะมีสีและกลิ่นมากกว่าชาเขียวขึ้นมาหน่อย รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม เมื่อดื่มจะให้รสฝาด และขมเล็กน้อย ชุ่มคอ ซึ่งมีสาระสำคัญต่อร่างกายเช่น Flavanoid, Polyphenols Catechin,    วิตามิน C, วิตามิน E และซาโปเนีย
 
ประโยชน์จากชาอูหลง
d
dddจากที่กล่าวมาข้างต้นสาระสำคัญต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ที่สำคัญๆ มีส่วนช่วยในเรื่องต่างๆดังนี้
Epigallocatechin Gallate (EGCG) ป้องกัน การเกิดมะเร็ง สารตัวนี้มีฤทธิ์ในการยับยั้งมะเร็งมากกว่า วิตามิน C ถึง 2 เท่าและสามารถยับยั้งการสร้างสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อนมะเร็งรุนแรง นอกจากนี้ ชาอูหลงสามารถยับยั้งสาร MNNG ที่ทำให้เกิดมะเร็ง ในกระเพาะอาหารและลำไส้ อีกทั้งสาร DEAN ที่ทำให้เกิดมะเร็งในปอดได้
ddddPolyphenol Catechin ใบ ในชาอูหลงยังสามารถช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด หรือลดระดับคลอเรสเตอรอล เมื่อร่างกายได้รับสารนี้ซึ่งจะช่วยให้ไขมันที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดลด น้อยลง
ddddTheobromin ยัง ช่วย Polyphenol Catechin เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดปริมาณไขมันที่เกาะตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือด และยังช่วยให้เลือดมีความเข้มข้นน้อยลงทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดคล่องตัว มากยิ่งขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่น ให้เส้นเลือดฝอย ไม่ให้เปราะ และแตกง่าย
ddddGlycosides ในใบชาอูหลงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดของผู้ป่วยเบาหวานลดระดับลง และควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่คงที่
ชาอูหลงกับการลดน้ำหนัก นอกจากสามารถดูดซึมน้ำตาลในลำไส้เล็ก ลดย่อยสลายไขมัน และลดคลอเรสเตอรอลได้แล้วสำหรับน้ำชาอูหลง 300 CC. สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 40 แคลลอรี่
ddddด้าน อื่นๆ การดื่มชาอูหลงทุกวัน สามารถช่วยขับสารพิษต่างๆที่อยู่ในร่างกาย ขับปัสสาวะ ขยายหลอดลม และสามารถต่อต้านไวรัสบางชนิด กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถต้านทานต่อสิ่งแปลกปลอม เช่นไข้หวัด หรือแม้แต่ยังชะลอการกระจายของเชื้อ HIV ไม่ให้เข้าไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ดี

ประโยชน์จากสารกาบา
d
dddอูหลงกาบาเป็นการหมักพิเศษเพื่อดึงสารกาบาที่มีอยู่ในใบชาให้สูงขึ้น โดยสารกาบานี้เป็นกรดอะมิโนที่ผลิตจากกระบวนการ Decarboxylation ของ กร ดกลูตามิก มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้สารกาบายังถือเป็นสารสื่อประสาทประเภทสารยับยั้ง โดยจะทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมองที่ได้รับการกระตุ้น ซึ่งช่วยทำให้เกิดการผ่อนคลายและนอนหลับสบาย ทั้งยังสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และพาคินสันในผู้สูงอายุได้

ประวัติชาอูหลง
 
             ชาอูหลงมาปลูกในเมืองไทย สมัยนายกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ดอยแม่สลอง เดิมทีมีกองทหารแตกแยกจากจีนเนื่องจาก คณะปฏิบัติเมาเซตุง ได้มาอาศัยขอลี้ภัย ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยแม่สลอง เรียกว่าทหารกองพล 93 ก๊กหมิ่นตั๋ง ด้วยความซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงมี ความประสงค์ ตอบแทนพระคุณของแผ่นดิน ขันอาสาไปปราบผู้ก่อการร้ายเขาค้อ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทหารก๊กหมิ่นตั๋ง เป็นทหารเท้าปล่าว คือไม่ใส่รองเท้า จะปีนเขาเก่งมาก และในที่สุดก็รบเอาชนะยึดเขาค้อคืนได้ ด้วยความดีความชอบ ได้ขออนุญาตนายกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรี นำกล้าใบชาอูหลงจากไต้หวัน มาปลูกที่ดอยแม่สลอง เหตุที่เหมาะในพื้นที่ภูมิศาสตร์ เปรียบเทียบกับไทยกับเกาะไต้หวัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 800 เมตร อากาศที่ไต้หวันหนาวเย็น และภูมิศาสตร์ที่ดอยแม่สลองสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1200 เมตร และอากาศที่ดอยแม่สลอง ก็มีอากาศหนาวเย็นลักษณะใกล้เคียงกับเกาะไต้หวัน จึงปลูกใบชาได้ดี และประจวบกับ มีโครงการพระราชดำริที่จะทำลายต้นฝิ่น และให้ชาวเขามาทำเกษตรกรรมที่ถูกต้อง จึงได้ส่งเสริมให้มีการปลูก ชาอูหลงขึ้น (พลิกพื้นฝิ่น เป็นถิ่นชา) ประมาณ พ.ศ. 2530 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
และในที่สุดก็ได้แชมป์เปี้ยนชาโลก เมื่อ พ.ศ. 2547 ที่ สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยการส่งเสริมชาส่งออกไปต่างประเทศ และประกาศศักดิ์ศรีของเกษตรกร ใบชาไทยให้กับชาวโลกได้รับรู้ โดยมี นายกทักษิณ ชินวัตร (ในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี) เป็นผู้ให้การสนับสนุน ให้การเชื้อเชิญ ชาวต่างประเทศมาร่วมชุมนุมประกวดชาโลกเป็นเกรียติประวัติให้แก่คนไทยทั้ง ประเทศ ที่มีภูมิศาสตร์ แหล่ง ผลิตใบชาอูหลงดีที่สุดในโลก และได้เชิญคณะกรรมการมาด้วยกันหลายประเทศ มี ไต้หวัน อินเดีย ศรีลังกา จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ
คณะกรรมการได้ให้คำตัดสินชาอูหลง เบอร์ 12 และอูหลงก้านอ่อนหรืออูหลงเบอร์ 17 ได้เป็นแชมป์ชาโลก ตั้งแต่นั้นมา ชาไทยได้ขายใบชาไปต่างประเทศ และส่งออกอย่างกว้างขวาง เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งความ สะอาด ปลอดสารเคมี มีปุ๋ย (ออร์แกนิค) กลิ่นหอม อะโรม่าคราสสิก ขับสารพิษและขับไขมันในกระเพาะ อาหาร และลำไส้ (ดีทอกซ์คอลเรสเตอรอล) เป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันเส้นเลือด มะเร็งใน
กระเพาอาหาร ลำไส้ รักษาไต ต้านอนุมูลอิสระ (เซปตี้บอดี้) ในอวัยวะภายใน
 
ชาอูหลงในเมืองไทย มีประเภทชาอูหลงที่นิยมดื่มกันอันดับแรกและอันดับรองลงมาดังต่อไปนี้

1. ชาอูหลงก้านอ่อน หรืออีกชื่อ อูหลงเบอร์ 17
2. ชาอูหลงเบอร์ 12
3. ชาอูหลงดั้งเดิมของคนแต้จิ๋วโบราณ ( อูหลงพ่อขุนหมื่นลี้)
4. ชาอูหลงจุ่ยเซียน
5. ชาอูหลงทิกวนอิม
6. ชาอูหลงภู่เอ๋อ (เจ้าสัวอูหลง)
 
สรุปประโยชน์ของชา
 
dddd- ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง เพราะมีการกระตุ้นขบวนการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
dddd- ช่วยย่อยอาหารละลายไขมัน
dddd- ป้องกันโรคกระเพาะอาหารที่เรื้อรังช่วยป้องกันและลดคลอเรสเตอรอลได้ดี
dddd- สามารถป้องกันและต่อต้านขบวนการเกิดมะเร็ง (Anti carcinogenic)
dddd- สามารถป้องกันหรือลดความอ้วนได้ด้วยการดูดซึมน้ำตาลและไขมันในลำไส้เล็กช่วยชะลอความชราและบำรุงผิวพรรณ
dddd- การดื่มชาหรือเคี้ยวใบชาเป็นประจำจะช่วยรักษาเหงือกและป้องกันฟันผุได้
ddddสรรพคุณ เหล่านี้ล้วนเป็น ประโยชน์ที่มีอยู่ในชาทุกชนิด แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์ชา การดูแลต้นชาและเทคนิคการผลิตใบชา ดังนั้น ดื่มรสชา เลือกความหอม ตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ และดื่มชาให้ถูกวิธีจึงจะได้ประโยชน์จากการดื่มมากที่สุด
 
โทษของชา
 
ddddอย่าง ไรก็ตามถึงชาจะมี ประโยชน์ต่อร่างกายมากเพียงใด แต่หากได้รับมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน อย่างเช่นความเชื่อหนึ่งของคนจีนที่ว่าการดื่มชาให้อร่อยนั้นจะต้องดื่มตอน ร้อนๆ เวลาชงต้องชงที่อุณหภูมิน้ำเดือด แต่หารู้ไม่นั่นอาจก่อให้เกิดโทษอย่างร้านแรง นั่นคือมะเร็งหลอดอาหาร เนื่องจากความร้อนของน้ำชาที่ได้รับทุกครั้ง จะก่อให้เกิดแผลในหลอดอาหาร ดังนั้นหลังจากที่รินน้ำชาออกจากาแล้ว ทิ้งให้อุ่นหรือโดยประมาณ  70 – 80 องศา จะดีต่อร่างกายมากกว่าร้อนจัดๆ
ddddเมื่อ ท่านรับประทานวิตามิน เสริม เช่น ธาตุเหล็ก เกลือแร่ หรือยาที่คล้ายคลึงกัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชาร่วมไปด้วย เพราะ สารสำคัญ จากใบชาจะไปตกตะกอนธาตุเหล็กหรือเกลือแร่จะไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ddddการ ดื่มชาขณะท้องว่างเช่น อูหลง หรือทิกวนอิมที่มีความเข้มข้นของออกไซค์อยู่เป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมีผลทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผลได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดกรดในกระเพาะ อาหารควรหันมาทานน้ำชาหลังอาหาร เพื่อป้องกัน และล้างไขมันในอาหารมื้อนั้นจะดีต่อสุขภาพมากกว่า
ddddความ เชื่อที่ว่าการดื่มชา หลังรับประทานอาหารจะช่วยลดไขมันที่รับประทานในอาหารมื้อนั้นได้เป็นความ จริง แต่โทษต่อร่างกายก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสำคัญที่มีอยู่ในน้ำชาคือ “แทนนิน” จะไปตกตะกอนกับโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ จากอาหารที่รับประทาน ทำให้ลดการดูดซึมของสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย จึงมีคำแนะนำไม่ให้เด็กดื่มน้ำชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวแช่เย็นหรือชาร้อน เพราะจะทำให้ขาดสารอาหาร

จาก ลองชาไทยทีดอทคอม
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ท
ที่มา http://health4friends.lnwshop.com
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น