วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความรู้เกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบ เอ

โรคไวรัสตับอักเสบ เอ คืออะไร

โรค ไวรัสตับอักเสบ เอ หรือ ดีซ่านหรือโรคไวรัสลงตับ เกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ ทำให้ตับทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือน้อยลงเป็นผลให้เกิดการเจ็บป่วยโรคตับอักเสบเกิดได้จากหลายสาเหตุแต่ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโดยเชื้อไวรัสที่พบบ่อยคือเชื้อไวรัสตับ อักเสบ เอ และ บี อาการส่วนใหญ่ที่พบมักมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง หรือโรคดีซ่านแบบเฉียบพลันประมาณร้อยละ 60-70% ของผู้ป่วยมักเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบ เอ

โรค ไวรัสตับอักเสบ เอ ในเด็กมักไม่มีอาการหรือมีแต่ก็ไม่ได้รุนแรงอย่างไรก็ตามบางครั้งอาจพบอาการ รุนแรงได้ เน อาการตาเหลือง ตัวเหลืองเป็นเวลานาน ตับอักเสบอย่างรุนแรงจนตับวาย อาจเป็นผลทำให้เสียชีวิตได้ อาการจะรุนแรงมากขึ้นตามอายุ ในผู้ใหญ่ถ้าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ส่วนใหญ่มีอาการรุนแรงมากกว่า อาการมักจะเริ่มต้นด้วยมีไข้ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนหลังจากนั้นประมาณ 3-5 วัน จะเริ่มปัสสาวะสีเข้ม และมีไข้ตาเหลือง ตัวเหลืองปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวา การดำเนินโรคส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ โรคไวรัสตับอักเสบ เอ เป็นโรคที่ไม่มีการรักษาโดยเฉพาะ การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ และการพักผ่อน

เชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ

เชื้อ ไวรัสตับอักเสบ เอเป็นเชื้อไวรสกลุ่ม picornavirus ติดเชื้อเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอจะมีภูมิอยู่ตลอดชีวิตและจะไม่เป็นโรคนี้อีก เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ เข้าไป เชื้จะเจริญในตับและเชื้อจะถูกขับออกทางน้ำดีและอุจาระ มักจะระบาดในชุมชนที่อยู่กันหนาแน่นและไม่ถูกสุขลักษณะ

ระยะฟักตัว

คือระยะเวลาตั้งแต่เราได้รับเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการโดยเฉลี่ยประมาณ 28 วัน(15-50)

ระยะติดต่อ

ระยะ เวลาที่จะติดต่อคนอื่นได้ง่ายที่สุดคือระยะเวลาก่อน เกิดอาการ 2 สัปดาหและอาจจะอยู่ได้หลายสัปดาห์หลังจากมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองแล้ว โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ผลเลือดมีการอักเสบของตับ แม้ว่าผลเลือดจะกลับสู่ปกติเราก็ยังสามารถพบเชื้อในเลือดของผู้ป่วย

อาการของผู้ป่วย

ในเด็กอายุน้อยกว่า 6ปีมักจะไม่มีอาการแสดงอะไร สำหรับวัยรุ่นขึ้นไปพบว่าร้อยละ70-90 จะมีอาการของตับอักเสบ อาการที่สำคัญได้แก่
  • มีไข้
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • แน่นชายโครงขวา
  • ท้องร่วง
  • ปัสสาวะสีเข็ม อุจาระซีด
  • และ มีอาการตัวเหลืองตาเหลืองที่เรียกว่าดีซ่าน
  • โดยทั่วไปอากาจะหายไปใน 2 เดือน บางรายอาการอยู่ได้ 6 เดือน ผู้ป่วยมักจะมีอาการหลังจากได้รับเชื้อ 28 วัน (15-50 วัน)

โรคไวรัสตับเอกเสบ เอ ติดต่อกันได้อย่างไร

ผู้ป่วยตับอักเสบจะขับเชื้อออกทางอุจาระ ดังนั้นการติดต่อมักเป็นในครอบครัวและหน่วยงานการติดต่อมีได้สองรูปแบบคือ
- จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้รับเชื้อจากน้ำที่เปื้อนเชื้อ จากการร่วมเพศทางทวารหนัก
-จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ
.มัก เกิดในที่ๆสุขอนามัยไม่ดี และอยู่กันเป็นกลุ่มเช่น โรงเรียน สำนักงาน กองทหาร มหาวิทยาลัย ได้รับเชื้อจากน้ำที่เปื้อนเชื้อ ระยะ3-10 วันก่อนเกิดอาการเราจะพบเชื้อปริมาณมากในอุจาระจนกระทั้งสองสัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะที่ติดเชื้อได้ง่ายที่สุดโรคนี้มักจะไม่ติดต่อทางการให้เลือด เนื่องจากช่วงที่มี เชื้อในกระแสเลือดผู้ป่วยมักจะเกิดอาการของโรคแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรสตับอักเสบ เอก่อนการบริจาคเลือด โรคนี้ไม่ติดต่อจากแม่ไปลุก

เราจะป้องกันในครอบคัวจากโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ได้อย่างไร

ใน อดีตคนไทยส่วนใหญ่มักมีภูมิคุ้มกันโรคตับอักเสบ เอ แล้วเพราะได้รับการติดเชื้อตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตามการสาธารณะสุข และการสุขาภิบาลของประเทศไทยในปัจจุบันดีขึ้นอย่างมาก จึงทำให้การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ ในเด็ก และวัยรุ่นได้ลดลงอย่างมาก ทุกวันนี้เด็กไทยจำนวนมากที่ไม่เคยติดเชื้อนี้มาก่อนจึงไม่มีภูมิคุ้มกันต่อ โรคนี้ และเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ เอมากขึ้น (รวมทั้งอาการที่พบในวัยหนุ่มสาว และผู้ใหญ่มักจะรุนแรง)
  • รับทานอาหารและน้ำที่สะอาด
  • ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและควรใช้ช้อนกลาง
  • ขับถ่ายในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
  • กำจัดขยะ และสิ่งปฏิกูลเพื่อมิให้ปนเปื้อนไปสู่แหล่งน้ำและอาหารของชุมชนได้
เชื้อไวรสตับอักเสบ เอถูกทำลายโดย
  • ความร้อน 85°C เป็นเวลา 1นาที
  • autoclaving (121°Cเป็นเวลา 20 นาที)
  • ใช้แสง ultraviolet radiation (1.1 W at a depth of 0.9 cm for 1 min)
  • ใช้ formalin (8% for 1 min at 25°C)
  • ß-propriolactone (0.03% for 72 h at 4°C)
  • ใช้ด่างทับทิม potassium permanganate (30 mg/l เป็นเวลา 5 นาที)
  • ใช้ iodine (3 mg/l เป็นเวลา 5 นาที)
  • ใช้ chlorine (free residual chlorine concentration of 2.0 to 2.5 mg/l for 15 min)
  • chlorine-containing compounds (3 to 10 mg/l sodium hypochlorite at 20°C for 5 to 15 min)
  • shellfish from contaminated areas should be heated to 90°C for 4 min or steamed for 90 sec
จาก สยามเฮทล์ดอทคอม,ข้อมูลโรคจากโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ที่มา  http://health4friends.lnwshop.com

1 ความคิดเห็น:

  1. ทางเลือกใหม่ที่ทุกคนใช้แล้วมีผลตอบรับดีมากๆ สุขภาพที่ดีไม่ใช่จะต้องดูแลแค่ภายนอก ต้องดูแลภายในด้วย แนะนำสมุนไพรพลูคาว 100% สกัดจากใบพลูคาวที่จะช่วยยับยั้งทำลายเชื้อไวรัส และเซ็ลล์มะเร็ง เชื้อ Hiv หูดหงอนไก่ สเก็ดเงิน ริดสีดวง เบาหวาน ไต ไทรอย ไวรัสตับอักเสบบี อัมพฤกษ์ อัมพาต หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภูมิแพ้ โรคพุ่มพวง ไซนัส
    อยากหายจากการป่วยที่เรื้อรังไว้ใจเราครับ
    ผ่าน อย. และได้รับรางวัล ผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี 2558 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายของเราให้มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่างๆที่จะมาทำลายสุขภาพของเรา
    สอบถามเพิ่มเติม tel. 0959279523 ID line. Aofaudio0502
    สอบถามผ่านไลน์ก่อนได้ครับ อย่ามัวแต่อายครับสอบถามมาก่อนได้

    ตอบลบ