วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความรู้เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบ ซี

ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C) คืออะไร

ไวรัสตับอักเสบ ซีเป็น สาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบ เกิดขึ้นภายหลังการได้รับเลือดหรือผลิตภัณฑ์จากเลือด การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี พบในประชากรทั่วไปประมาณร้อยละ 2 ของคนที่มาบริจาคเลือด หลังจากเป็นตับอักเสบแล้วก็มีแนวโน้มจะเป็นตับอักเสบเรื้อรัง 20% ของผู้ป่วยตับจะเป็นตับแข็งภายใน 10-20 ปี บางส่วนกลายเป็นมะเร็งตับ

ปัจจัยเสี่ยงและการติดต่อ

ไวรัสตับอักเสบ ซี ติดต่อทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน แต่มีผู้ป่วยบางท่านได้รับเชื้อโดยไม่ทราบแหล่งที่มาปัจจัยเสี่ยงได้แก่
  • ผู้ที่เคยได้รับเลือด และ สารเลือดก่อนปี คศ 1992 เนื่องจากยังไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี
  • เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ได้รับอุบัติเหตุถูกเข็มตำ
  • ผู้ป่วยติดยาเสพติดใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อ ไวรัสตับอักเสบ ซี พบได้ร้อยละ 5
  • ผู้ที่สำส่อนทางเพศ หรือ รักร่วมเพศ
  • ไดรับเชื้อจากการสักตามตัว
อาการของผู้ป่วย

ผู้ที่เป็นตับอักเสบ ซี เรื้ออาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่ไม่มาก อาการที่พบได้คือ
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • ปวดชายโครงขวา
  • ปวดกล้ามเนื้อและ ปวดข้อ
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเรื้อรังและกลายเป็นตับแข็งจะมีอาการ
  • ตับ ม้ามโต
  • ตัวเหลืองตาเหลือง
  • กล้ามเนื้อลีบ
  • ท้องมาน
  • เท้าบวม
วิธีป้องกันตับไวรัสอักเสบ ซี
  • ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • ให้สวมถุงมือถ้าต้องสัมผัสเลือด
  • ห้ามใช้มีดโกนหนวด แปรงสีฟันร่วมกัน
  • ห้ามใช้อุปกรณ์ในการสักร่วมกัน
  • ให้ใช้ถุงยางคุมกำเนิดถ้าหากมีเพศสัมพันธ์หลายคน
  • ถ้าคุณเป็นตับอักเสบ ซีห้ามบริจาคเลือด
การติดต่อของ ไวรัสตับอักเสบซี

        1. เลือดและผลิตภัณฑ์เลือดทุกชนิด โดยเฉพาะได้รับก่อนปี 2535
        2. ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การฉีดยากับหมอเถื่อน
        3. การสัก การเจาะหู โดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
        4. การฟอกไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

ประเด็นที่ควรระมัดระวังเกี่ยวกับสาเหตุของการติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี

        1. การสัก ซึ่งอาจเกิดจากการปนเปื้อนในน้ำหมึก หัวเข็ม ที่ล้างหมึก
        2. การสักคิ้ว สักขอบตา
        3. การฉีดยาเสพติดเข้าเส้น
        4. อุปกรณ์ของใช้ในร้านเสริมสวย ไม่ว่าจะเป็นการทำผม การทำเล็บ การใช้ใบมีดโกน กรรไกร ซึ่งในร้านเสริมสวยค้นพบว่ามีเชื้อราอยู่ถึง 20% ทีเดียว

อาการของตับอักเสบเฉียบพลันจาก ไวรัสตับอักเสบซี

        1. ไม่มีอาการ
        2. อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลดและลงท้ายด้วยตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งอาการตัวเหลืองตาเหลืองพบได้เพียง 10-15% เท่านั้น ที่เหลือไม่พบ จึงทำให้ยากต่อการวินิจฉัย

อาการตับอักเสบเรื้อรังจาก ไวรัสตับอักเสบซี

         ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการ บางรายอาจมีอาการเหนื่อยเพลีย ไม่มีแรง มึนงง สมองไม่สั่งงานและเมื่อตับอักเสบไปเรื่อยๆ จึงพบอาการตับแข็ง นอกจากนั้นอาจพบอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานผิดปกติ เช่น โรคไต โรคผิวหนังผื่นตามผิวหนัง เป็นต้น

อาการตับแข็งจาก ไวรัสตับอักเสบซี

         ผู้ป่วยตับแข็งในระยะแรกยังไม่มีอาการหรือความผิวปกติให้เห็น ผู้ป่วยยังสามารถมีชีวิตทำงานได้ตามปกติเหมือนเดิม จนกระทั่งสูญเสียการทำงานของตับมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเริ่มมีอาการต่างๆ ปรากฏให้เห็น ซึ่งแสดงออก 2 ชนิด คือ
        1. อาการที่เกิดจากการสูญเสียการทำงานของเซลล์ตับ ทำให้การสร้างสารอาหาร พลังงานและการทำลายพิษต่างๆ ผิดปกติ อาการที่ปรากฏคือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ผอมลง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องม้าน ขาบวม ผิวคำคล้ำแห้ง คันโดยไม่มีแผล เลือดกำเดาออก เลือดออกตามไรฟัน กลางคืนนอนมีเลือดหยดลงหมอนผิวหนังช้ำ เขียวง่าย ไวต่อยาหรือสารพิษต่างๆ มากกว่าปกติ ป่วยบ่อยๆ ติดเชื้อในกระแสเลือดติดเชื้อในช่องท้อง สมองมึนงง ซึม สับสน หรือโคม่า
        2. อาการที่เกิดจากพังผืดยึดรัดเนื้อตับ ก็คือ อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ ถ่ายเป็นเลือด เนื่องจากมีการแตกของหลอดเลือดโป่งพองในหลอดอาหาร ม้ามโต ซีด เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือด ขาวต่ำ มะเร็งตับ

การรักษาโรคเกี่ยวเนื่องกับไวรัสตับอักเสบซี
     
        ตับอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเฉียบพลันมักไม่ค่อยมีอาการ จึงไม่มีการรักษาใดๆ เป็นเพียงการดูแลรักษาตามอาการเท่านั้น เช่น ถ้าอ่อนเพลียก็ให้พักผ่อนเยอะๆ ไม่นอนดึก หลีกเลี่ยงอาหารมัก เป็นต้น
        ตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่จะกลายเป็นโรคเรื้อรังและมีการดำเนินของโรคไปเรื่อยๆ จนถึงสภาพตับเสื่อมและตับวายในที่สุด ปัจจุบันยาที่ใช้เป็นมาตรฐาน ในการรักษาคือ การให้ยา 2 ตัวร่วมกัน คือ ยาฉีดในกลุ่มอินเตอร์เฟอรอนร่วมกับยาไรบาไวริน ซึ่งเป็นยารับประทาน ยาทั้งสองจะให้ผลดีคือกำจัดไวรัสให้หมดไปและไม่เป็นซ้ำอีกหลังหยุดยาซึ่งให้ ผลเฉลี่ยมากกว่า 50%

จาก  กระปุกดอทคอม
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ที่มา   http://health4friends.lnwshop.com

1 ความคิดเห็น:

  1. ทางเลือกใหม่ที่ทุกคนใช้แล้วมีผลตอบรับดีมากๆ สุขภาพที่ดีไม่ใช่จะต้องดูแลแค่ภายนอก ต้องดูแลภายในด้วย แนะนำสมุนไพรพลูคาว 100% สกัดจากใบพลูคาวที่จะช่วยยับยั้งทำลายเชื้อไวรัส และเซ็ลล์มะเร็ง เชื้อ Hiv หูดหงอนไก่ สเก็ดเงิน ริดสีดวง เบาหวาน ไต ไทรอย ไวรัสตับอักเสบบี อัมพฤกษ์ อัมพาต หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภูมิแพ้ โรคพุ่มพวง ไซนัส
    อยากหายจากการป่วยที่เรื้อรังไว้ใจเราครับ
    ผ่าน อย. และได้รับรางวัล ผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี 2558 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายของเราให้มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่างๆที่จะมาทำลายสุขภาพของเรา
    สอบถามเพิ่มเติม tel. 0959279523 ID line. Aofaudio0502
    สอบถามผ่านไลน์ก่อนได้ครับ อย่ามัวแต่อายครับสอบถามมาก่อนได้

    ตอบลบ